บัญชี Forex ที่ดีที่สุดด้วยค่าสเปรดต่ำสุด ปี 2024

แชร์สิ่งนี้:

โบรกเกอร์ Forex ที่มีค่าสเปรดแคบที่สุด - Exness

เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

โบรกเกอร์ Forex ที่มีค่าสเปรดแคบที่สุดในปี 2024 ได้แก่

  • Exness - โบรกเกอร์ค่าสเปรดแคบพร้อมด้วยเลเวอเรจสูง

  • IC Markets - สภาพคล่อง Forex ดีที่สุด

  • Tickmill - ค่าสเปรดแคบด้วยค่าธรรมเนียมเพียง $2

  • Multibank - โบรกเกอร์ที่มีการกำกับดูแลดีที่สุด พร้อมด้วยค่าสเปรดแคบ

ในการเทรด Forex ความแตกต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายที่ดีที่สุดเรียกว่าค่าสเปรด หรือ bid-ask spread ในฐานะนักเทรด คุณจะเข้าใจความสำคัญของค่าสเปรดต่ำในการจัดการต้นทุนการเทรดและสร้างกำไร จริง ๆ แล้ว ค่าสเปรดที่แคบสามารถช่วยให้คุณประหยัดเงินในแต่ละคำสั่งเทรดได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับคุณในระยะยาว ดังนั้น การเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่มีค่าสเปรดแคบที่สุดจึงมีความสำคัญต่อความสำหรับของนักลงทุนทุกคน ในปี 2023 มีหลายโบรกเกอร์ที่มีความโดดเด่นในเรื่องค่าสเปรดที่ต่ำและแคบที่สุด วงเงินฝากขั้นต่ำน้อย และมีเงื่อนไขการเทรดที่ดีเยี่ยม

บัญชี Forex ประเภทใดมีค่าสเปรดแคบที่สุด?

ในโลกการเทรด Forex มีบัญชีฟอเร็กซ์หลายประเภทที่ให้บริการค่าสเปรดแคบที่สุดสำหรับนักเทรด

  • หนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมคือบัญชี Electronic Communications Network (เครือข่ายการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์) หรือที่เรียกกันว่าบัญชี ECN บัญชีนี้ให้นักเทรดสามารถเข้าถึงผู้ให้บริการสภาพคล่องโดยตรง และได้รับราคาที่ดีที่สุดพร้อมด้วยค่าสเปรดต่ำ

  • อีกทางเลือกหนึ่งคือบัญชี Straight Through Processing (STP) (การประมวลผลโดยตรง) ซึ่งให้บริการค่าสเปรดที่ต่ำ แต่มีอาจมีค่าคอมมิชชั่นที่สูงกว่า

  • บัญชี Standard เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน แต่ค่าสเปรดจะกว้างกว่าบัญชีประเภท Raw Spread เล็กน้อย

  • สำหรับนักเทรดที่ให้ความสำคัญกับค่าสเปรดต่ำมากกว่าค่าคอมมิชชั่น บัญชี Zero Spread ให้ค่าสเปรดเป็นศูนย์สำหรับคู่สกุลเงินบางคู่

ในการเลือกบัญชี Forex สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงความต้องการและเป้าหมายส่วนตัวของคุณ เช่น สไตล์การเทรด ระดับการยอมรับความเสี่ยง และระดับการเข้าถึงตลาดที่ต้องการ

เปรียบเทียบบัญชีที่ดีที่สุดที่มีค่าสเปรด Forex แคบเป็นพิเศษ

ตารางด้านล่างเป็นตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุดที่มีค่าสเปรดแคบที่สุด

โบรกเกอร์ EURUSD ค่าเฉลี่ย GBPUSD ค่าเฉลี่ย USDJPY ค่าเฉลี่ย AUDUSD ค่าเฉลี่ย ค่าธรรมเนียมบัญชี Raw (ต่อล็อต)

Exness

0.1

0.3

0.1

0.4

$3.5

IC Markets

0.1

0.5

0.2

0.3

$3.5

Tickmill

0.1

0.3

0.2

0.2

$2

Mutlibank

0.1

0.5

0.3

0.4

$3

RoboForex

0.40

0.90

0.20

0.50

$1.20

FP Markets

0.10

0.30

0.20

0.20

$3

Pepperstone

0.17

0.59

0.26

0.17

$3.5

Interactive brokers

0.1

0.7

0.2

0.4

ตามปริมาณ

Admiral Markets

0.10

0.60

0.30

0.50

$3

*ข้อมูลค่าสเปรดเฉลี่ยของโบรกเกอร์ที่ระบุโดยโบรกเกอร์

รีวิวบัญชี Forex ที่มีค่าสเปรดต่ำที่สุด

รีวิวโบรกเกอร์ Forex ที่มีค่าสเปรดต่ำที่สุดดังนี้

Exness

โบรกเกอร์นี้ให้บริการในหลายพื้นที่ของโลก และได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานชั้นนำ เช่น FCA, CySEC และ SFSA โบรกเกอร์ Exness ได้รับการยอมรับในฐานะโบรกเกอร์ที่น่าไว้วางใจและน่าเชื่อถือ เลเวอเรจสูงของบริษัท โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่อยู่นอกพื้นที่ EU/EEA เป็นฟีเจอร์พิเศษที่ทำให้โบรกเกอร์นี้มีความโดดเด่น Exness นำเสนอบัญชีสองประเภทคือ Standard และ Professional ที่ MetaTrader 4 และ 5 โดยกำหนดเงินฝากขั้นต่ำที่แตกต่างกันไป เริ่มที่ $1 และมีค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0.1 pips ในบัญชี Standard และ 0.3 pips ในบัญชี Professional

ฟีเจอร์พิเศษ

  • Exness กำหนดค่าสเปรดแคบเริ่มต้นที่ 0.0 pips ไม่ใช่แค่นั้น ยังมีค่าคอมมิชชั่นเริ่มต้นเพียง $3.5 บัญชี Electronic Communication Network เป็นบัญชีที่พลิกเกม

  • ค่าธรรมเนียมต่อล็อตคือ 3.5 USD

  • เลเวอเรจสูงสุด 1:2000

  • ผู้ให้บริการสภาพคล่องคือ Deutsche Bank, Barclays Capital, UBS AG ฯลฯ

  • Exness ให้บริการเซิร์ฟเวอร์ VPN เพื่อความเร็วในการทำธุรกรรมที่ดีขึ้น

IC Markets

โบรกเกอร์ Forex ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 ในออสเตรเลีย เป็นโบรกเกอร์ที่สร้างแรงสะเทือนต่อวงการชุมชนนักเทรด Forex มาเป็นเวลาหลายปี

แต่บางทีสิ่งที่ทำให้ IC Markets มีความพิเศษมากกว่าที่อื่นคือ ความมุ่งมั่นในการให้เลเวอเรจสูงแก่นักลงทุน นักเทรดสามารถเปิดคำสั่งเทรดที่ใหญ่ขึ้นด้วยเงินลงทุนที่น้อยกว่าได้ด้วยเลเวอเรจที่ให้สูงสุด 1:500 และแม้ว่า IC Markets จะลดเลเวอเรจการเทรดสูงสุดของนักลงทุนผ่านการเทรดของโบรกเกอร์สาขาออสเตรเลีย แต่ยังสามารถเข้าถึงเลเวอเรจที่สูงกว่าผ่านสาขานอกชายฝั่งในเซเชลส์ได้

นักเทรดสามารถเลือกบัญชีจากหลายประเภทบัญชี บัญชีแต่ละประเภทออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการและความนิยมที่แตกต่างกันไปของนักเทรด ไม่ว่าคุณจะมองหาการเทรดแบบไร้ค่าธรรมเนียมหรือค่าสเปรดที่แคบที่สุด IC Markets มีบัญชีที่ตอบโจทย์ความต้องการทุกรูปแบบ

ฟีเจอร์พิเศษ

  • การเข้าถึงเครือข่ายการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์หรือ ECN & VPN เพื่อธุรกรรมที่ลื่นไหลและรวดเร็วกว่า

  • ค่าธรรมเนียมต่อล็อตคือ 3.5 USD

  • เลเวอเรจเริ่มตั้งแต่ 1:1 ถึง 1:500

  • ผู้ให้บริการสภาพคล่อง ได้แก่ JP Morgan Chase, Morgan Stanley, Bank of America, GSA Capital และ Bank of Tokyo-Mitsubishi UFJ

Tickmill

ค่าสเปรดแคบที่สุดของ Tickmill เฉลี่ยอยู่ที่ 0.13 pips ของคู่ EUR/USD หลังจากพิจารณาต้นทุนในการเทรดแล้วถือว่าโบรกเกอร์นี้เป็นโบรกเกอร์ที่ควรพิจารณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความน่าเชื่อถือที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากเช่นกัน เพราะค่าสเปรดที่คุณได้รับเป็นสิ่งที่ทำให้ประสบการณ์การเทรดของคุณแตกต่างไปโดยสิ้นเชิงได้

ฟีเจอร์พิเศษ

  • ค่าธรรมเนียมต่อล็อตคือ 2 USD

  • ขนาดเลเวอเรจตั้งแต่ 1.1 สูงสุด 1:500

  • ผู้ให้บริการสภาพคล่องคือ Barclays Bank

  • การเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ VPS ที่นักลงทุนสามารถใช้กลยุทธ์การเทรดแบบอัตโนมัติตามอัลกอริทึม

  • ค่าสเปรดเริ่มตั้งแต่ 0.0 pips โดยมีค่าคอมมิชชั่นต่ำ ไปจนถึง 1.6 pips โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น

Multibank

MultiBank เป็นโบรกเกอร์ Forex ค่าสเปรดต่ำที่สุดที่มีชื่อเสียง โบรกเกอร์นี้โด่งดังในเรื่องการให้บริการ CFDs ที่มีความหลากหลายและมีค่าสเปรดต่ำ การเลือกแพลตฟอร์มการเทรดที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเทรด และ MultiBank ก็ให้ความสำคัญในการให้บริการแพลตฟอร์ม MetaTrader ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันไปของนักเทรด

อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ของ MultiBank อาจดูเหมือนไม่มีความเกี่ยวข้องกัน เนื่องจากบัญชีเทรดของที่นี่จะใช้ชื่อที่ต่างออกไป เช่น "ECN Pro," "MultiBank Pro," และ "Maximus'' แต่จริง ๆ แล้ว ที่นี่แค่ให้บริการบัญชีหลายประเภทในแพลตฟอร์มเดียวกันทั้งสองแพลตฟอร์ม คือ MetaTrader 4 และ 5 รวมถึงเวอร์ชันเว็บไซต์

บัญชี ECN Elite ให้นักเทรดได้รับค่าสเปรดต่ำที่สุดเริ่มต้นที่ 0.0 pips แต่มีจำนวนเงินฝากขั้นต่ำที่สูงคือ 5,000 USD สำหรับนักเทรดที่ไม่สามารถเริ่มฝากเงินจำนวนนี้ได้ บัญชี MultiBank Pro เป็นทางเลือกที่มีวงเงินฝากขั้นต่ำน้อยกว่าอยู่ที่ $1,000 โดยมีค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0.8 pips บัญชี Maximus เป็นบัญชีที่เพอร์เฟ็คสำหรับมือใหม่ โดยมีจำนวนเงินฝากขั้นต่ำเพียง 50 USD เท่านั้น และค่าสเปรดเริ่มต้น 1.4 pips

การเลือกแพลตฟอร์มมีความสำคัญต่อความสำเร็จในการเทรด และการให้ความสำคัญของ MultiBank ต่อแพลตฟอร์มตระกูล MetaTrader ก็เอื้อต่อความยืดหยุ่นและความสะดวกของนักเทรด นักเทรดจะต้องประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และวัตถุประสงค์เพื่อเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะสม นักเทรดสามารถไว้วางใจโบรกเกอร์นี้ในการให้บริการที่น่าเชื่อถือ เพราะ MultiBank มีค่าสเปรดที่มีสมรรถภาพในการแข่งขันในวงการ

ฟีเจอร์พิเศษ

ค่าธรรมเนียมต่อล็อตคือ 3.0 USD + ต้นทุนค่าสเปรด

เลเวอเรจอยู่ที่ 1:500

ผู้ให้บริการสภาพคล่อง ได้แก่ Bank Of America, Bank of Scotland, DBS, Ecobank ฯลฯ

RoboForex

RoboForex คือ แพลตฟอร์มการเทรดยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเทรดฟอเร็กซ์ เริ่มให้บริการมาในปี 2009 โบรกเกอร์นี้ให้ค่าสเปรดเป็นศูนย์และเป็นที่ชื่นชอบในหมู่ลูกค้ากว่า 4.56 ล้านคนจาก 169 ประเทศ จึงเป็นผู้เล่นชั้นนำในวงการฟอเร็กซ์ สิ่งที่ทำให้ RoboForex มีความโดดเด่นคือความยืดหยุ่นในการตอบโจทย์ความต้องการของนักเทรดมือใหม่และผู้มีประสบการณ์

ที่นี่มีตัวเลือกหุ้นอเมริกาให้เทรดกว่า 3000 รายการ โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 0.025 USD ต่อหุ้น และเพียง 0.009 USD ต่อหุ้นเท่านั้นสำหรับผู้ที่ฝากเงิน $10,000 ขึ้นไป RoboForex จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดที่มองหาโบรกเกอร์ที่มีค่าสเปรดต่ำที่ 0 pips

ฟีเจอร์พิเศษ

  • ขนาดค่าสเปรดในบัญชี ProCent และ Pro คือ 1.3 pips

  • เลเวอเรจสูงสุด 1:2000

  • ผู้ให้บริการสภาพคล่อง ได้แก่ ธนาคารรายใหญ่ และบริษัทการลงทุนที่มีใบอนุญาต

  • การเข้าถึง VPS ซึ่งนักเทรดสามารถทำการเทรดอัตโนมัติได้อย่างลื่นไหล

FP Market

หลังจากบังคับใช้ระเบียบใหม่ในออสเตรเลียในปี 2021 โบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากออสเตรเลียแห่งนี้ให้บริการเลเวอเรจสูงสุด 1:30 นักเทรดในยุโรปที่ลงทะเบียนกับโบรกเกอร์สาขาที่มีหน่วยงาน EU กำกับดูแลจะต้องยอมรับเลเวอเรจที่จำกัดเท่ากันด้วย อย่างไรก็ตาม นักเทรดจากประเทศอื่น ๆ สามารถเทรดกับโบรกเกอร์นี้ผ่านสาขานอกชายฝั่งในหมู่เกาะบริติชเวอร์จินได้ จึงยีงสามารถเข้าถึงการเทรดในเลเวอเรจที่สูงกว่ามากได้สูงสุด 1:500

โบรกเกอร์นี้ให้บริการบัญชีเทรด Forex 2 รูปแบบให้แก่นักลงทุน ได้แก่ บัญชี Standard และบัญชี Premium บัญชี Standard ที่นี่เหมาะที่สุดสำหรับนักเทรดมือใหม่ เพราะไม่มีค่าคอมมิชชั่น และค่าสเปรดกว้างกว่า ในขณะเดียวกัน บัญชี Premium ก็เหมาะกับนักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า เพราะมีค่าสเปรดแคบกว่า และเทรดโดยใช้ค่าคอมมิชชั่นเป็นหลัก

ฟีเจอร์พิเศษ

  • การเข้าถึง VPS หากนักลงทุนรักษาระดับปริมาณการเทรดตามที่กำหนด

  • เลเวอเรจสูงสุด 1:500

  • ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips บน RAW ECN และ 1 pip บนบัญชี Standard

Pepperstone

Pepperstone คือ โบรกเกอร์ Forex ที่มีค่าสเปรดต่ำที่สุดของออสเตรเลีย ซึ่งให้ค่าสเปรดที่แคบมาก มีตราสารการเทรดให้เลือกอย่างหลากหลาย และ 3 แพลตฟอร์มการเทรด ได้แก่ MetaTrader 4, MetaTrader 5 และ cTrader นักเทรดสามารถเข้าใช้งานแพลตฟอร์มเหล่านี้จากหลากหลายอุปกรณ์ และใช้ประโยชน์จากโบรกเกอร์ ECN ที่ให้ค่าสเปรด 0 pip ผ่านบัญชี Razaor แต่บัญชีนี้จะมีการหักค่าคอมมิชชั่น นอกจากนี้ โบรกเกอร์นี้ยังมีความโดดเด่นในหมู่คู่แข่งด้วยค่าสเปรดเฉลี่ยที่ 0.79 pips สำหรับ EUR/USD ในบัญชี Standard ซึ่งให้ค่าสเปรดต่ำโดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น นักลงทุนจากทุกระดับสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์การเทรดที่ไร้รอยต่อพร้อมด้วยการควบคุมบัญชีโดยสมบูรณ์ และการดำเนินคำสั่งเทรดด้วยความเร็วสูง

ฟีเจอร์พิเศษ

  • ค่าธรรมเนียมต่อล็อตคือ 3.5 USD + ต้นทุนค่าสเปรด

  • เลเวอเรจในสหราชอาณาจักรคือ 1:30 และในออสเตรเลีย 1:500

  • ผู้ให้บริการสภาพคล่องจากธนาคารชั้นนำ 22 แห่ง

  • การเข้าถึงสถานที่ตั้ง VPS และ Equinix (NY4) ซึ่งนักลงทุนสามารถดำเนินคำสั่งเทรดโดยสมบูรณ์อย่างลื่นไหล

Interactive Brokers

คำถามว่าโบรกเกอร์ Forex ที่มีค่าสเปรดแคบไหนดีที่สุดอาจเป็นคำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวของคุณ ไม่ใช่ความลับเลยที่การเทรดออนไลน์มีความท้าทายสูง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น อย่างไรก็ตาม Interactive Brokers เป็นโบรกเกอร์ผู้ชนะที่ชัดเจนในการแข่งขันนี้ โบรกเกอร์นี้อยู่ในวงการการเทรดมามากกว่า 40 ปี และได้รับความไว้วางใจสูง ค่าสเปรดที่แคบที่สุดของโบรกเกอร์หลายสินทรัพย์ได้รับการกำกับดูแลโดยคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC), หน่วยงานกำกับดูแลอุตสาหกรรมทางการเงิน (FINRA) และหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน (FCA)

ฟีเจอร์พิเศษ

  • ค่าเลเวอเรจขึ้นอยู่กับสินทรัพย์

  • ค่าสเปรดเฉลี่ยคือ $0.6

Admiral Markets

Admirals ตระหนักถึงความสำคัญของความชัดเจนและความสะดวกสบาย ซึ่งให้บริการผ่านทั้งแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 โดยมีขนาดเลเวอเรจสูงสุด 1:500 และแพลตฟอร์มให้บริการในระบบปฏิบัติการต่าง ๆ ได้แก่ Android, iOS, Mac และการเทรดบนเว็บ นอกจากนี้ ล่าสุดโบรกเกอร์ยังได้เริ่มให้บริการแอปเทรดบนมือถือให้นักเทรดสามารถเทรดนอกสถานที่ โดยมีอินเทอร์เฟซที่เน้นความสำคัญของความเรียบง่ายและการตอบสนองอย่างชาญฉลาด ประเภทบัญชีที่ Admirals แบ่งกลุ่มออกเป็นบัญชีแบบรายย่อย และบัญชีผู้เชี่ยวชาญ

สำหรับบัญชีของนักเทรดรายย่อย แพลตฟอร์มมีบัญชีสองประเภท ได้แก่ Trade และ Zero

นักลงทุนที่ใช้บัญชีนี้จะสามารถเทรดได้โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น แต่จะมีค่าสเปรดกว้างกว่าเล็กน้อย ในขณะที่บัญชี Zero จะเป็นบัญชี ECN ซึ่งมีค่าคอมมิชชั่นและค่าสเปรดแคบ

Admiral Market ยอมรับว่านักเทรดแต่ละคนมีความพิเศษ จึงให้บริการบัญชีการเทรดที่ตอบโจทย์สไตล์การเทรด ความชอบ และความต้องการส่วนบุคคล

โบรกเกอร์ Forex ไหนที่ถูกที่สุด?

โบรกเกอร์ Forex ที่มีราคาถูกที่สุด 3 อันดับแรกจัดอันดับตามปัจจัยเหล่านี้

Exness

  • ค่าสเปรด: เริ่มตั้งแต่ 0.0 pips

  • เงินฝากขั้นต่ำ: $1

IC Markets

  • ค่าสเปรด: เริ่มตั้งแต่ 0.0 pips

  • เงินฝากขั้นต่ำ: $200.

Tickmill

  • ค่าสเปรด: เริ่มตั้งแต่ 0.0 pips

  • เงินฝากขั้นต่ำ: $100

บัญชี Zero Spread มีจริงหรือไม่?

บัญชี Zero Spread คือประเภทบัญชีเทรดที่มีคุณสมบัติตามชื่อบัญชี จริง ๆ แล้วบัญชีประเภทนี้ยังคงมีค่าสเปรดเล็กน้อย โดยบัญชีค่าสเปรดเป็นศูนย์นั้นมักมีค่าสเปรดของคู่ EURUSD โดยทั่วไปคือ 0.1-0.2 pips

อีกทั้ง นักเทรดควรพิจารณาค่าคอมมิชชั่นที่ $2-3.5 ต่อล็อตมาตรฐาน Forex ที่เป็นค่าธรรมเนียมทั่วไปของบัญชีประเภท Zero Spread ด้วย

ควรเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่มีค่าสเปรดแคบที่สุดสำหรับการเทรดแบบ Scalping อย่างไร?

  • อันดับแรก ควรเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่ปฏิบัติตามมาตรฐานของวงการ มีรีวิวที่ดี และมีการกำกับดูแลโดยหน่วยงานรัฐบาล เช่น FCA, ASIC และ CySEC

  • เลือกโบรกเกอร์ Forex ที่มีกราฟที่ตอบสนองดี มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย เครื่องมือการเทรดขั้นสูง และฟีเจอร์อื่น ๆ ที่ให้คุณสามารถวิเคราะห์เทรนด์ตลาดได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันก็เทรดได้ตามเรียลไทม์

ตอนนี้ลองมองหาโบรกเกอร์ที่นำเสนอ

  • เลเวอเรจที่ยืดหยุ่น

  • มี slippage น้อย

  • ค่าสเปรดแคบ เช่น ระหว่าง 0.1-0.5 pips สำหรับคู่สกุลเงินหลัก

  • บริการลูกค้า 24 ชั่วโมงทุกวัน ในหลายช่องทาง และมีบัญชีทดลองให้บริการ

  • เงินฝากขั้นต่ำไม่สูงมาก

  • มีหลากหลายบัญชีให้เลือกพร้อมเงินฝากขั้นต่ำ และช่องทางการฝากและถอนเงินที่สะดวก

คู่ Forex ไหนมีค่าสเปรดต่ำที่สุด?

คู่ EUR/USD

ค่าสเปรดลอยตัว: 0.1-0.5 pips

ค่าสเปรดคงที่: 1-5 pips

คู่ USD/JPY

ค่าสเปรด: 0.1-2 pips

คู่ GBP/USD

ค่าสเปรด: 0.3-2.7 pips

คู่ USD/CHF

ค่าสเปรด: 0.5-5 pips

คู่ EUR/JPY

ค่าสเปรด: 0.5-5.7 pips

ค่าสเปรด Forex ขึ้นอยู่กับอะไร?

ค่าสเปรดที่นักเทรดเห็นในแพลตฟอร์มการเทรดของโบรกเกอร์ Forex ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างคือ

  • สภาพคล่องของแต่ละคู่สกุลเงิน ค่าสเปรดต่ำที่สุดจะพบกับคู่สกุลเงินหลักที่มีสภาพคล่องมากที่สุด

  • ผู้ให้บริการสภาพคล่องของโบรกเกอร์ Forex ของคุณ

  • ประเภทบัญชีที่คุณเลือก ค่าสเปรดต่ำที่สุดมักจะมีให้ในบัญชีประเภท Raw Spread และ ECN

  • ความผันผวนในแต่ละวัน หากความผันผวนเพิ่มขึ้น ค่าสเปรดอาจกว้างขึ้น

โบรกเกอร์ที่มีค่าสเปรดแคบทำรายได้อย่างไร?

โบรกเกอร์ Forex ที่มีบัญชีค่าสเปรดแคบทำรายได้จากการหักค่าคอมมิชชั่นจากคำสั่งเทรด จำนวนเงินที่หักจะขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ และประเภทของบัญชี แต่โดยทั่วไปจะหักประมาณ $2-$3.5 ต่อล็อต นอกเหนือจากค่าคอมมิชชั่นนี้แล้ว หลายโบรกเกอร์ยังหักค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม เช่น ค่าสวอปข้ามคืน ค่าธรรมเนียมการรักษาบัญชีที่ไม่มีความเคลื่อนไหว หรือค่าธรรมเนียมในการฝาก/ถอนเงิน โบรกเกอร์ Forex ให้บริการค่าสเปรดที่แคบกว่าบัญชีมาตรฐานทั่วไป เพื่อดึงดูดความสนใจจากนักเทรดผู้มีประสบการณ์ที่ต้องการคุณภาพที่สูงกว่าในการเทรด

นอกจากนี้ โบรกเกอร์ Forex บางเจ้ายังทำรายได้จากการให้บริการสภาพคล่องหรือโปรแกรมพันธมิตร ผู้ให้บริการสภาพคล่องให้บริการเงินทุนจำนวนมาก เพื่อให้สามารถนำเสนอราคาที่แข่งขันได้ในตลาด ในขณะที่โปรแกรมพันธมิตรจะเป็นการแนะนำลูกค้า และรับค่าตอบแทนจากกิจกรรมการเทรดของลูกค้าที่แนะนำมา โบรกเกอร์ Forex ที่มีบัญชีค่าสเปรดแคบสามารถช่วยสร้างรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ให้บริการโซลูชั่นการเทรดที่ให้ต้นทุนต่ำกับลูกค้า ซึ่งตอบโจทย์กับความต้องการของแต่ละบุคคล

ฉันควรเลือกบัญชี Zero/Raw Spread หรือไม่?

การเลือกบัญชี Forex ที่ใช่อาจเป็นการตัดสินใจที่ยาก และที่สำคัญคือควรเลือกบัญชีที่เหมาะกับสไตล์การเทรดและเป้าหมายของคุณมากที่สุด บัญชี Raw Spread ในการเทรดฟอเร็กซ์ให้ข้อดีหลายข้อสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ ผู้ที่ต้องการทำกำไรสูงสุดจากคำสั่งเทรดโดยไม่ต้องการต้นทุนที่สูงเกินไป ด้วยค่าสเปรดที่แคบกว่าในบัญชีมาตรฐานทั่วไป รวมถึงค่าธรรมเนียมที่ลดลงในแต่ละคำสั่งเทรด บัญชีเหล่านี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการทำกำไรจากความผันผวนในตลาด และมีความแม่นยำสูงกว่า

บัญชี Raw Spread ยังให้ความเร็วในการดำเนินคำสั่งเทรดที่สูงกว่า ซึ่งอนุญาตให้นักเทรดใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนที่ในตลาดอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าด้วย

นอกจากนี้ โบรกเกอร์ที่มีฐานที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ที่ให้บริการบัญชี Raw Spread มักมีแพ็คเกจที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักเทรดหลายกลุ่ม เช่น อาจมีแหล่งข้อมูลเพื่อการศึกษาที่เป็นมิตรต่อผู้ที่เพิ่งเริ่มหัดเทรด หรือเครื่องมือการวิเคราะห์ขั้นสูงให้นักเทรดควบคุมธุรกรรมของตนได้ง่ายขึ้น ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาวิธีที่มีประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุนในการเทรดในตลาดฟอเร็กซ์ บัญชี Raw Spread อาจเป็นโซลูชั่นที่เพอร์เฟ็คสำหรับคุณ

สรุปแล้ว การเลือกบัญชีแบบ Raw Spread อนุญาตให้นักเทรดฟอเร็กซ์เพลิดเพลินกับค่าสเปรดที่แคบลง มีความเร็วในการดำเนินคำสั่งเทรดที่สูงขึ้น ในขณะเดียวกันก็ได้ประโยชน์จากการประหยัดต้นทุนในการเทรด และความโปร่งใสมากขึ้นเมื่อเทียบกับบัญชีเทรดประเภทอื่น ๆ

ค่าสเปรดแคบ vs บัญชี Standard

  • เป็นที่ทราบกันดีว่า บัญชีเทรดประเภทต่าง ๆ มีค่าสเปรดที่แตกต่างกันไป ซึ่งส่งผลกับต้นทุนโดยรวมในการเทรด

  • ค่าสเปรดแคบให้ค่าสเปรดที่ต่ำลง ในขณะที่บัญชี Standard ทั่วไปจะมีค่าสเปรดสูงกว่า แต่สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงก็คือ ต้นทุนการเทรดไม่ได้ขึ้นอยู่กับค่าสเปรดอย่างเดียวเท่านั้น ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ขนาดคำสั่งเทรด และคู่สกุลเงินที่เทรดก็ส่งผลต่อต้นทุนโดยรวมในการเทรดเช่นกัน

  • สำหรับนักลงทุนที่ต้องการตลาดที่มีความเสถียรมากกว่า บัญชีที่ให้ค่าสเปรดแคบอาจเหมาะในการเทรดกว่า เพราะบัญชีประเภทนี้ให้ค่าสเปรดที่ต่ำกว่าและมีความผันผวนน้อยกว่า ในขณะที่ บัญชี Standard จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการเทรดในตลาดที่มีความผันผวนสูง เพราะมีค่าสเปรดสูงกว่า และเหมาะสำหรับกลยุทธ์การเทรดระยะสั้นมากกว่า เป็นต้น

  • หนึ่งในข้อดีหลักของบัญชี Standard คือ การเข้าถึงเครื่องมือและฟีเจอร์การจัดการความเสี่ยงที่ครอบคลุมกว่า เครื่องมือและฟีเจอร์เหล่านี้สามารถช่วยให้นักลงทุนบริหารจัดการคำสั่งเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า และจำกัดความเสี่ยงที่ต้องเผชิญโดยรวม ในขณะเดียวกัน บัญชีค่าสเปรดแคบก็อาจมีเครื่องมือการบริหารความเสี่ยงที่จำกัด จึงมีความท้าทายมากกว่าสำหรับนักลงทุนในการจัดการกับคำสั่งเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ

ค่าสเปรดต่ำใน Forex หรือไม่?

ใช่ โดยทั่วไป ค่าสเปรดต่ำถือว่ามีประโยชน์ในตลาด Forex ค่าสเปรดหมายถึงส่วนต่างระหว่างราคา bid (ราคาขาย) และราคาซื้อ (ask) ของคู่สกุลเงิน ค่าสเปรดต่ำหมายความว่า ส่วนต่างระหว่างสองราคาเหล่านี้มีไม่มาก นักเทรดฟอเร็กซ์จึงได้หลายประโยชน์หลายทางดังนี้

ต้นทุนธุรกรรมลดลง

ค่าสเปรดต่ำหมายถึง ต้นทุนการทำธุรกรรมน้อยลง เนื่องจากค่าสเปรดจริง ๆ แล้วก็คือค่าธรรมเนียมของโบรกเกอร์ ค่าสเปรดที่ต่ำลงแปลว่า นักเทรดจ่ายเงินเพื่อเข้าและออกจากคำสั่งเทรดน้อยลง จึงได้กำไรมากขึ้นนั่นเอง

ความสามารถในการทำกำไรทันที

คำสั่งเทรดจะได้กำไรเร็วขึ้น เมื่อค่าสเปรดต่ำ เนื่องจากต้นทุนในการเข้าเทรดลดลง ราคาไม่จำเป็นต้องเคลื่อนที่ไปไกลมาก นักเทรดจึงจะได้กำไร

Slippage น้อยลง

Slippage เกิดขึ้นเมื่อราคาการดำเนินคำสั่งเทรดแตกต่างไปจากราคาที่คาดการณ์ ค่าสเปรดต่ำมักหมายถึงสภาพคล่องที่สูงขึ้น และการแทรกแซงราคาที่น้อยลง จึงมีโอกาสน้อยลงที่จะเกิด slippage

โอกาสเทรดเพิ่มขึ้น

ค่าสเปรดต่ำอาจช่วยให้ได้รับโอกาสการเทรดเพิ่มขึ้น ต้นทุนการทำธุรกรรมที่ต่ำลง สามารถช่วยให้เทรดได้บ่อยมากขึ้นหรือใช้กลยุทธ์ที่ต้องอาศัยการเทรดบ่อยขึ้น เช่น การเทรดแบบ scalping

ต้นทุนการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้น

ด้วยค่าสเปรดที่ต่ำ นักเทรดจึงสามารถเข้าใจต้นทุนการเทรดของตนเองล่วงหน้าได้ดีขึ้น จึงมีประโยชน์ในการวางแผนกลยุทธ์และการบริหารความเสี่ยง ให้นักเทรดสามารถทำการตัดสินใจได้อย่างรอบคอบมากขึ้น

สอดรับกับเงื่อนไขตลาด

โบรกเกอร์ที่ให้บริการค่าสเปรดต่ำมักให้ราคาที่สอดรับกับเงื่อนไขตลาด วิธีนี้ช่วยคงความโปร่งใสและรักษาสภาพแวดล้อมการเทรดที่เป็นธรรม

โบรกเกอร์ที่มีค่าสเปรดต่ำเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือไม่?

ใช่ โบรกเกอร์ที่มีค่าสเปรดต่ำมักถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับมือใหม่ในการเทรดฟอเร็กซ์ ค่าสเปรดต่ำหมายถึง ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายของคู่สกุลเงินมีไม่มาก ซึ่งทำให้ต้นทุนการทำธุรกรรมลดลง สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเทรด วิธีนี้อาจช่วยให้การเข้าถึงตลาดเรียบง่ายขึ้นและมีราคาถูกลง

นอกจากนี้ ค่าสเปรดต่ำยังช่วยให้ทำกำไรได้เร็วขึ้นด้วย แปลว่าราคาไม่ต้องเคลื่อนที่ไปไกลในทิศทางที่ต้องการเพื่อที่จะได้กำไร โดยรวมแล้ว การทำงานกับโบรกเกอร์ที่ให้ค่าสเปรดต่ำถือว่าเข้าถึงได้มากกว่าและมีต้นทุนการเทรดที่น้อยกว่าสำหรับนักเทรดมือใหม่

มีวิธีลดต้นทุนการเทรดอย่างไรนอกเหนือจากค่าสเปรดที่ต่ำ?

การเทรดในตลาดการเงินมีต้นทุนมากมาย ในขณะที่การเลือกค่าสเปรดที่ต่ำเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพในการจำกัดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ยังมีอีกหลายวิธีในการลดต้นทุนการเทรด ได้แก่

  • เลือกโบรกเกอร์ที่มีค่าคอมมิชชั่นต่ำ: ค่าคอมมิชชั่นสามารถส่งผลต่อต้นทุนการเทรดของคุณได้มาก ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ให้ค่าคอมมิชชั่นต่ำหรือเป็นศูนย์ในการเทรด คุณจะได้ประหยัดเงินได้มาก

  • ใช้ประโยชน์จาก Limit Orders: Limit Orders ให้คุณสามารถกำหนดราคาที่คุณต้องการซื้อหรือขายสินทรัพย์ การใช้คำสั่งประเภท limit orders ช่วยให้คุณแน่ใจว่าคุณจะเข้าเทรดในราคาที่ต้องการ สามารถหลีกเลี่ยงต้นทุนที่ไม่จำเป็นของคำสั่งเทรดประเภท Market Orders ได้

  • พิจารณาต้นทุนข้ามคืน: บางโบรกเกอร์หักค่าธรรมเนียมในการเปิดคำสั่งเทรดข้ามคืน การทำความเข้าใจต้นทุนเหล่านี้และว่ามันมีผลอย่างไรต่อคำสั่งเทรดของคุณอาจช่วยหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดได้

  • ใช้งานกลยุทธ์การเทรดที่มีประสิทธิภาพ: กลยุทธ์การเทรดที่ยืดหยุ่น ซึ่งสอดรับกับเงื่อนไขตลาดและสไตล์การเทรดของคุณสามารถช่วยลดการขาดทุนที่ไม่จำเป็นได้ วิธีนี้ ได้แก่ การจัดการความเสี่ยงอย่างระมัดระวังและการหลีกเลี่ยงการเทรดเกินตัว หรือโอเวอร์เทรด ซึ่งจะยิ่งเพิ่มต้นทุนในการเทรดของคุณ

  • ตรวจดูค่าธรรมเนียมการไม่มีความเคลื่อนไหว: บางโบรกเกอร์หักค่าธรรมเนียมหากบัญชีของคุณไม่มีความเคลื่อนไหวในระยะเวลาหนึ่ง การหมั่นตรวจดูบัญชีของคุณเป็นประจำและรับทราบค่าธรรมเนียมการไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ อาจช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดเหล่านี้ได้

  • หลีกเลี่ยงการใช้เลเวอเรจสูงเกินควร: แม้ว่าเลเวอเรจจะช่วยทวีคูณผลกำไร แต่เพิ่มความเสี่ยงและต้นทุนที่อาจเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน ก

  • ติดตามแพลตฟอร์มและค่าธรรมเนียมข้อมูล: ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์และแพลตฟอร์ม เครื่องมือหรือข้อมูลตลาดบางชนิดอาจมีค่าธรรมเนียมเข้ามาเกี่ยวข้อง การเข้าใจค่าใช้จ่ายเหล่านี้และเลือกแพลตฟอร์มที่ให้บริการฟีเจอร์โดยไม่มีค่าบริการเพิ่มเติมอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเทรดได้

  • ทำความเข้าใจเรื่องภาษี: ภาษีอาจเป็นส่วนสำคัญในต้นทุนการเทรด การปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อทำความเข้าใจภาระหน้าที่ของคุณ และโอกาสขอส่วนลดภาษีอาจช่วยให้คุณจัดการกับต้นทุนเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

บทสรุป

กล่าวโดยสรุป ค่าสเปรดที่ต่ำมีความสำคัญในการเทรดฟอเร็กซ์ เพราะสามารถช่วยให้คุณประหยัดเงินในแต่ละคำสั่งเทรด และช่วยเพิ่มรายได้ในระยะยาวได้ การเลือกโบรกเกอร์ที่มีค่าสเปรดแคบที่สุด มีวงเงินฝากขั้นต่ำ และเงื่อนไขการเทรดที่ดีเยี่ยมเป็นหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จสำหรับนักลงทุนทุกคน

คำถามที่พบบ่อย

Exness มีค่าสเปรดที่แคบหรือไม่?

ใช่ Exness เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มีค่าสเปรดแคบที่สุด

โบรกเกอร์ Forex ไหนมีค่าสเปรดแคบที่สุด?

Tickmill, IC Markets และ Exness เป็นตัวอย่างโบรกเกอร์ Forex ที่ให้บริการค่าสเปรดแคบที่สุด

บัญชี Zero Spread ดีหรือไม่?

ขึ้นอยู๋กับกลยุทธ์การเทรดและความต้องการ

มีโบรกเกอร์ที่ให้ค่าเปรด 0 หรือไม่?

บัญชี Zero Spread คือชื่อของประเภทบัญชีที่โปรโมทคุณสมบัตินี้ โดยทั่วไปค่าสเปรดขั้นต่ำจะอยู่ที่ประมาณ 0.1 pips สำหรับคู่สกุลเงิน EURUSD

อภิธานศัพท์สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่

  • 1 นักลงทุน

    นักลงทุนคือบุคคลที่นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์โดยคาดหวังว่ามูลค่าของสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้นในอนาคต สินทรัพย์อาจเป็นอะไรก็ได้ รวมถึงพันธบัตร หุ้นกู้ กองทุนรวม หุ้น ทองคำ เงิน กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) และอสังหาริมทรัพย์

  • 2 พิเศษ

    Xetra เป็นระบบการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เยอรมันที่ตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ตดำเนินการ Deutsche Börse เป็นบริษัทแม่ของตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ต

  • 3 ความผันผวน

    ความผันผวนหมายถึงระดับของการเปลี่ยนแปลงหรือความผันผวนของราคาหรือมูลค่าของสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น พันธบัตร หรือสกุลเงินดิจิทัล ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ความผันผวนที่สูงขึ้นบ่งชี้ว่าราคาของสินทรัพย์กำลังเผชิญกับการแกว่งของราคาที่มีนัยสำคัญและรวดเร็วมากขึ้น ในขณะที่ความผันผวนที่ลดลงบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่ค่อนข้างคงที่และค่อยเป็นค่อยไป

  • 4 ทำกำไร

    คำสั่ง Take-Profit คือคำสั่งการซื้อขายประเภทหนึ่งที่สั่งให้นายหน้าปิดสถานะเมื่อตลาดถึงระดับกำไรที่ระบุ

  • 5 การบริหารความเสี่ยง

    การบริหารความเสี่ยงเป็นรูปแบบการบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในขณะที่เพิ่มผลกำไรสูงสุด เครื่องมือการจัดการความเสี่ยงหลักคือ Stop Loss, Take Profit, การคำนวณปริมาณตำแหน่งโดยพิจารณาจากเลเวอเรจและมูลค่า pip

ทีมงานที่จัดทำบทความนี้

Oleg Tkachenko
ผู้เขียนและผู้เชี่ยวชาญของ Traders Union

Oleg Tkachenko เป็นนักวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์และผู้จัดการความเสี่ยง ผู้ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานในสถาบันการเงินอย่างแท้จริงมานานกว่า 7 ปี Oleg เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ ฟอเร็กซ์ ตลาดหุ้น และตลาดการลงทุนที่ไม่เข้ามาตรฐาน (สกุลเงินดิจิทัล, HYPES, P2P Lending) เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท จากสถาบัน Ukrainian Academy of Banking of the National Bank of Ukraine, Kharkiv Banking Institute เขาเริ่มงานเป็นผู้เขียนของ Traders Union ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018 และในปี ค.ศ. 2020 เขาได้เข้าร่วมทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินของ Traders Union

Oleg มีส่วนร่วมใน Traders Union ในการวิเคราะห์บริษัทโบรกเกอร์ต่าง ๆ และเฝ้าตรวจสอบความเกี่ยวเนื่องของข้อมูลนั้นๆ เขาสามารถวิเคราะห์กลยุทธ์และตัวชี้วัดในการเทรด และจัดเตรียมบทความให้ความรู้ในหัวข้อการเงิน นอกจากนี้ Oleg ยังเป็นนักวิจัยที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับตลาดฟอเร็กซ์และตลาดหุ้น รวมถึงตลาดไบนารีอ็อปชันและตลาดซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล เขาตรวจสอบบริษัทโบรกเกอร์ต่าง ๆ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับผลการดำเนินงาน การเติบโตของธุรกิจ และทดลองใช้บริการใหม่ ๆ ที่นำเสนอโดยโบรกเกอร์เหล่านั้น เช่น ซอฟต์แวร์ ระดับการให้บริการของฝ่ายสนับสนุนลูกค้า เป็นต้น

Oleg มีคติประจำใจว่า “ข้อมูล คือ พลังอำนาจ ซึ่งจะมอบโอกาสได้อย่างไม่สิ้นสุด แต่ต้องมาพร้อมกับความเกี่ยวเนื่องกัน”

Kate Stoytschew
บรรณาธิการภาคภาษาไทย

เคท สโตยเชฟ เป็นบรรณาธิการคนไทยที่ Traders Union เธอเรียนจบปริญญาตรีและปริญญาโทด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ความหลงรักในภาษาพาเธอมาพบกับอาชีพเสริมในฐานะนักแปลภาษาไทยและอังกฤษ จนผันตัวมาเป็นงานหลักที่เธอชื่นชอบ “ฉันสนใจในเรื่องการเงินและการลงทุนมาโดยตลอด ส่วนใหญ่จึงมักแปลงานหรือเขียนคอนเทนต์เกี่ยวกับเรื่องการเงิน การเทรดสัญญา CFDs และคริปโต” นอกจากความชอบในภาษาต่างประเทศแล้ว เธอยังสนใจในเรื่องประเด็นสังคมและการเมืองอีกด้วย เธอชอบใช้เวลาว่างกับครอบครัว ปรุงอาหารอร่อย ๆ และพยายามฝึกทักษะภาษาเยอรมัน

Mirjan Hipolito
ผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโตและหุ้น

Mirjan Hipolito เป็นนักเขียนและบรรณาธิการข่าวที่ Traders Union เธอเป็นนักเเขียนที่เชี่ยวชาญเรื่องคริปโต มีประสบการณ์มากกว่าห้าปีในตลาดการเงิน เธอมีความชำนาญในการเขียนข่าวสารตลาดรายวัน การคาดการณ์ราคา และเรื่องการระดมทุนเพื่อเสนอขายเหรียญดิจิทัลใหม่ (ICO)