เทรดออนไลน์เริ่มต้นง่ายที่นี่
TH /th/interesting-articles/best-binary-options-strategies-you-should-know/advanced-trading-strategies/
AR Arabic
AZ Azerbaijan
CS Czech
DA Danish
DE Deutsche
EL Greek
EN English
ES Spanish
ET Estonian
FI Finnish
FR French
HE Hebrew
HI Hindi
HU Hungarian
IND Indonesian
IT Italian
JA Japan
KK Kazakh
KM Khmer
KO Korean
MS Melayu
NB Norwegian
NL Dutch
PL Polish
PT Portuguese
RO Romanian
... Русский
SV Swedish
TH Thai
TR Turkish
UA Ukrainian
UZ Uzbek
VI Vietnamese
ZH Chinese

กลยุทธ์ตัวเลือกไบนารีขั้นสูงที่คุณควรรู้

หมายเหตุบรรณาธิการ: แม้ว่าเราจะปฏิบัติตามมาตรฐานบรรณาธิการที่เข้มงวด แต่โพสต์นี้อาจมีการอ้างอิงถึงผลิตภัณฑ์จากพันธมิตรของเรา นี่คือคำอธิบายเกี่ยวกับวิธีที่เราทำเงิน ข้อมูลและข้อมูลใด ๆ บนหน้าเว็บนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุนตามข้อจำกัดความรับผิดของเรา

การซื้อขายออปชั่นไบนารี่นั้นแม้จะดูเรียบง่ายแต่ก็เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อขายได้เข้าไปมีส่วนร่วมในตลาดที่มีการเก็งกำไรสูงโดยมีอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่กำหนดไว้ เมื่อผู้ซื้อขายก้าวหน้าขึ้นในเส้นทางการซื้อขายออปชั่นไบนารี่ กลยุทธ์ "Call" และ "Put" ที่เรียบง่ายก็พัฒนาไปสู่วิธีการที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนมากขึ้น บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์ออปชั่นไบนารี่ขั้นสูง โดยเน้นที่การวิเคราะห์ทางเทคนิค ความรู้สึกของตลาด เวลาหมดอายุ และการจัดการความเสี่ยง การควบคุมกลยุทธ์เหล่านี้ให้ดีสามารถช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการซื้อขายได้อย่างแท้จริง

กลยุทธ์การซื้อขายขั้นสูงสำหรับตัวเลือกไบนารี

กลยุทธ์ Straddle

กลยุทธ์ Straddle เกี่ยวข้องกับการวางออปชั่นทั้งแบบ "Call" และ "Put" ในสินทรัพย์ แนวคิดคือการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาครั้งใหญ่ในทั้งสองทิศทาง กลยุทธ์นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อผู้ซื้อขายคาดว่าจะเกิดความผันผวน เช่น ก่อนการประกาศเศรษฐกิจที่สำคัญหรือการประชุมของธนาคารกลาง

  • เมื่อใดควรใช้: กลยุทธ์ straddle ได้ผลดีในตลาดที่มีความผันผวน เมื่อมีความเป็นไปได้สูงที่ราคาจะเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญในทั้งสองทิศทาง

  • การจัดการความเสี่ยง: แม้ว่ากลยุทธ์นี้อาจทำกำไรได้ แต่หากราคาสินทรัพย์ยังคงทรงตัว ก็อาจเกิดการสูญเสียได้ การใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอย่าง Average True Range (ATR) อย่างมีประสิทธิภาพสามารถช่วยวัดความผันผวนได้

กลยุทธ์ Hedging

การป้องกันความเสี่ยงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ขั้นสูงสำหรับการซื้อขายออปชั่นไบนารี่ โดยเกี่ยวข้องกับการวางการซื้อขายในทิศทางตรงข้ามกับสินทรัพย์เดียวกันเพื่อลดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น โดยพื้นฐานแล้ว หมายถึงการเปิดออปชั่น "Call" และ "Put" พร้อมกัน แต่มีเวลาหมดอายุหรือราคาใช้สิทธิ์ที่ต่างกัน

  • เมื่อใดควรใช้: การป้องกันความเสี่ยงมีประสิทธิผลในสถานการณ์ที่ทิศทางตลาดไม่แน่นอนแต่มีความผันผวนสูง

  • การบริหารความเสี่ยง: สิ่งสำคัญคือจังหวะเวลา การป้องกันความเสี่ยงสามารถปกป้องการซื้อขายได้ แต่ก็ช่วยลดอัตรากำไรที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน เทรดเดอร์มักใช้วิธีการนี้ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพื่อจำกัดความเสี่ยงในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน

กลยุทธ์ Risk reversal

การกลับตัวของความเสี่ยงในไบนารีออปชันเกี่ยวข้องกับการซื้อออปชัน "Call" พร้อมกับขายออปชัน "Put" ในเวลาเดียวกัน หรือในทางกลับกัน ในสินทรัพย์เดียวกัน กลยุทธ์นี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวตามทิศทางขนาดใหญ่ โดยไม่จำเป็นต้องคาดการณ์ความผันผวนของราคาเล็กน้อย

  • เมื่อใดควรใช้: กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับตลาดที่มีแนวโน้มแข็งแกร่ง ซึ่งผู้ซื้อขายมีความมั่นใจในทิศทางของแนวโน้ม

  • การจัดการความเสี่ยง: กลยุทธ์การลดความเสี่ยงต้องมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาด การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาและตัวบ่งชี้แนวโน้ม เช่น Moving Averages และ Bollinger Bands สามารถช่วยยืนยันทิศทางตลาดที่แข็งแกร่งได้

กลยุทธ์ Iron condor

กลยุทธ์ Iron Condor คือการเดิมพันว่าราคาหุ้นจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยต้องขายทั้ง Call และ Put ในราคาที่อยู่นอกเหนือราคาที่หุ้นกำลังซื้อขายอยู่ ขณะเดียวกันก็ซื้อการป้องกันไว้ไกลออกไปอีกเล็กน้อยในกรณีที่หุ้นเคลื่อนไหวอย่างไม่คาดคิด แทนที่จะหวังให้ราคาขึ้นหรือลงอย่างมาก คุณควรมองหาการซื้อขายที่สงบและมั่นคง เป้าหมายคือการทำกำไรเล็กน้อยจากเบี้ยประกันออปชั่นในขณะที่จำกัดความเสี่ยงด้วยออปชั่นการป้องกัน สิ่งสำคัญคือการค้นหาราคาที่เหมาะสมซึ่งคุณสามารถรับผลกำไรสูงสุดโดยไม่ต้องเสี่ยงต่อการขาดทุนครั้งใหญ่

  • เมื่อใดควรใช้: เหล็กคอนดอร์มีประสิทธิภาพในตลาดที่มีความผันผวนต่ำเมื่อคาดว่าราคาสินทรัพย์จะซื้อขายภายในช่วงแคบ

  • การจัดการความเสี่ยง: เหล็กคอนดอร์ให้ความเสี่ยงและผลตอบแทนที่จำกัด เทรดเดอร์ขั้นสูงมักใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค เช่น ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์ (RSI) เพื่อระบุตลาดที่อยู่ในช่วงราคา

กลยุทธ์ Momentum

กลยุทธ์โมเมนตัมนั้นอาศัยการวิเคราะห์ความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวของราคา ผู้ซื้อขายมองหาการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องในทิศทางหนึ่ง และวางการซื้อขายในทิศทางของโมเมนตัมนั้น

  • ควรใช้เมื่อใด: กลยุทธ์นี้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในตลาดที่มีแนวโน้ม ตัวบ่งชี้โมเมนตัม เช่น Moving Average Convergence Divergence (MACD) หรือ RSI สามารถช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มได้

  • การจัดการความเสี่ยง: การซื้อขายตามโมเมนตัมอาจมีความเสี่ยงในตลาดที่มีความผันผวน ผู้ซื้อขายจะต้องระมัดระวังสัญญาณหลอกและใช้กลไกการหยุดขาดทุนเพื่อปกป้องผลกำไร

ความสำคัญของเวลาหมดอายุในกลยุทธ์ขั้นสูง

ปัจจัยที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งในการเทรดไบนารีออปชั่นคือเวลาหมดอายุ เทรดเดอร์ขั้นสูงเข้าใจดีว่าการเลือกเวลาหมดอายุที่เหมาะสมนั้นมีอิทธิพลอย่างมากต่อความสำเร็จของการเทรด ยิ่งเวลาหมดอายุสั้นเท่าไร การเทรดก็จะยิ่งผันผวนและเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น ในขณะที่เวลาหมดอายุที่ยาวนานขึ้นจะช่วยให้วิเคราะห์แนวโน้มของตลาดได้ดีขึ้น

มีเวลาหมดอายุในไบนารีออปชั่นมีอยู่สามประเภทหลัก:

  1. การหมดอายุในระยะสั้น (30 วินาทีถึง 5 นาที): มักใช้โดยผู้ซื้อขายที่อาศัยความผันผวนของตลาด กลยุทธ์การหมดอายุในระยะสั้นได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างกำไรอย่างรวดเร็วแต่มีความเสี่ยงสูง

  2. การหมดอายุในระยะกลาง (15 นาทีถึง 1 ชั่วโมง): การซื้อขายในระยะกลางช่วยให้วิเคราะห์ได้อย่างละเอียดมากขึ้น และมักใช้กลยุทธ์การติดตามแนวโน้ม

  3. การหมดอายุในระยะยาว (สิ้นวันหรือยาวกว่านั้น): การหมดอายุในระยะยาวเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ค้าที่ชอบวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของตลาด เช่น การเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์

โบรกเกอร์ตัวเลือกไบนารีที่ดีที่สุด
นายหน้า เงินฝากขั้นต่ำ $ สินทรัพย์ การฝาก/ถอนเงิน ค่าธรรมเนียมการถอนเงิน เปิดบัญชี
Pocket Option 10 เหรียญ 100+ บัตร, กระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ เลขที่ เปิดบัญชี
เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง
Deriv 5 เหรียญ 50+ บัตรโอนเงินผ่านธนาคาร เลขที่ เปิดบัญชี
ทุนของคุณมีความเสี่ยง
Binarium 10 เหรียญ 70+ บัตร, สกุลเงินดิจิตอล เลขที่ เปิดบัญชี
เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง
CloseOption 5 เหรียญ 60+ บัตร, กระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ เลขที่ เปิดบัญชี
เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง
IQ Option 10 เหรียญ 80+ บัตรโอนเงินผ่านธนาคาร ขึ้นอยู่กับวิธีการ เปิดบัญชี
เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคในกลยุทธ์ขั้นสูง

กลยุทธ์ออปชั่นไบนารีขั้นสูงนั้นขึ้นอยู่กับตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอย่างมากในการวิเคราะห์สภาวะตลาด ต่อไปนี้คือตัวบ่งชี้สำคัญสองสามตัวที่เทรดเดอร์ขั้นสูงมักใช้:

  • Bollinger Bands สำหรับการทะลุแนวรับ เมื่อ Bollinger Bands หดตัวลง ตลาดก็พร้อมที่จะทะลุแนวรับ แทนที่จะรอให้ราคาเคลื่อนไหว คุณสามารถกระโจนเข้าไปก่อนเพื่อจับจังหวะการแกว่งตัวของราคาในทิศทางใดทิศทางหนึ่งเมื่อสถานการณ์เริ่มคึกคักขึ้นอย่างกะทันหัน

  • RSI สำหรับการกลับตัวของแนวโน้ม คนส่วนใหญ่มักใช้ RSI เพื่อดูว่ามีการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไปหรือไม่ แต่ RSI ยังมีอะไรมากกว่านั้นอีก หากคุณสังเกตเห็นว่าราคาเคลื่อนไหวไปในทางหนึ่งและ RSI เคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้าม แสดงว่าแนวโน้มกำลังจะกลับตัว และคุณสามารถทำการซื้อขายก่อนที่คนอื่นจะจับได้

  • Stochastic Oscillator สำหรับการเทรดอย่างรวดเร็ว คุณสามารถใช้ Stochastic Oscillator ได้ไม่เพียงแต่สำหรับการระบุแนวโน้มเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเทรดระยะสั้นอีกด้วย เมื่อสัญญาณตรงกับกรอบเวลาที่สั้นลง คุณสามารถกระโจนเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงโมเมนตัมอย่างรวดเร็วที่เทรดเดอร์คนอื่นมักมองข้าม

  • ADX ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการเทรดที่ไม่ดี ADX ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการตกต่ำจากการเคลื่อนไหวของราคาอย่างกะทันหันที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากแนวโน้มที่แท้จริง เมื่อ ADX อยู่ในระดับต่ำ ควรนั่งรอสัญญาณที่แรงขึ้น เพื่อให้คุณเทรดเฉพาะเมื่อแนวโน้มนั้นคุ้มค่าเท่านั้น

การจัดการความเสี่ยงในการซื้อขายไบนารีออปชั่นขั้นสูง

แม้แต่กลยุทธ์ไบนารีออปชั่นขั้นสูงที่สุดก็ยังต้องจับคู่กับเทคนิคการจัดการความเสี่ยงที่มั่นคง ต่อไปนี้เป็นวิธีการบางส่วนในการจัดการความเสี่ยง:

  • การกำหนดขนาดตำแหน่ง: อย่าเสี่ยงเกินกว่าเปอร์เซ็นต์เล็กน้อย (โดยทั่วไป 1-2%) ของเงินทุนซื้อขายทั้งหมดของคุณในการซื้อขายครั้งเดียว

  • การใช้ คำสั่ง stop-loss: แม้ว่าตัวเลือกไบนารี่จะมีความเสี่ยง/ผลตอบแทนที่แน่นอน แต่เทรดเดอร์ขั้นสูงอาจตั้งระดับ stop loss ในใจตามการวิเคราะห์ทางเทคนิค

  • การกระจายความเสี่ยง: กระจายการซื้อขายของคุณไปยังสินทรัพย์และตลาดที่แตกต่างกันเพื่อลดความเสี่ยงโดยรวม

  • หลีกเลี่ยงการซื้อขายมากเกินไป: ยึดติดกับกลยุทธ์ที่วางแผนไว้อย่างดี แทนที่จะตอบสนองอย่างหุนหันพลันแล่นต่อความเคลื่อนไหวของตลาด

กลยุทธ์ออปชั่นไบนารีขั้นสูงช่วยเพิ่มศักยภาพในการประสบความสำเร็จได้อย่างมาก

[ผู้เชี่ยวชาญส่วนหัว: andrey-mastykin]

หากคุณเพิ่งเริ่มใช้ไบนารีออปชัน สิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งที่คุณทำได้คือ เน้นที่จังหวะเวลาแทนที่จะพยายามทำการซื้อขายให้ได้มากที่สุด ผู้เริ่มต้นมักคิดว่าการซื้อขายมากขึ้นเท่ากับการชนะมากขึ้น แต่จริงๆ แล้ว มันคือการเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น การรวม Bollinger Bands และ RSI บนแผนภูมิระยะสั้นสามารถช่วยให้คุณมองเห็นโอกาสที่ดีเมื่อตลาดกำลังจะเคลื่อนไหว วิธีนี้จะทำให้คุณไม่เพียงแค่เดา ​​แต่ให้ปฏิบัติตามแผนที่อิงตามสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในตลาด

เคล็ดลับที่มีประโยชน์อีกประการหนึ่งคือ การให้ความสนใจกับข่าวสารและวิธีที่ข่าวสารเหล่านั้นสามารถเขย่าตลาดได้ ในขณะที่คนส่วนใหญ่มักจะยึดติดกับแผนภูมิ ข่าวใหญ่ๆ เช่น รายงานผลประกอบการหรือการอัปเดตของธนาคารกลางอาจทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การรู้ว่าเหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลต่อสินทรัพย์ที่คุณกำลังซื้อขายอย่างไรจะช่วยให้คุณได้เปรียบ ตัวอย่างเช่น การซื้อขายทันทีก่อนที่จะมีการเผยแพร่ข่าวอาจทำให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างกะทันหันได้ แต่ก็ต่อเมื่อคุณได้ค้นคว้าข้อมูลมาแล้วเท่านั้น

บทสรุป

การเชี่ยวชาญกลยุทธ์ออปชั่นไบนารีขั้นสูงต้องใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค ความเข้าใจในอารมณ์ของตลาด และการจัดการความเสี่ยงควบคู่กัน แม้ว่าจะมีโอกาสในการทำกำไรได้มากมาย แต่เทรดเดอร์ขั้นสูงก็ตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องเงินทุนของตนเช่นกัน การใช้กลยุทธ์เช่น straddle, iron condor หรือ momentum ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากสภาวะตลาดต่างๆ ได้ในขณะที่ยังคงควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่นเดียวกับตราสารทางการเงินอื่นๆ การศึกษา ฝึกฝน และปรับแต่งกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในระยะยาว

กลยุทธ์ขั้นสูงเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ซื้อขายสามารถนำทางในสถานการณ์ตลาดที่ซับซ้อนและปรับผลลัพธ์การซื้อขายให้เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าคุณจะจัดการกับความผันผวนสูงด้วยกลยุทธ์ straddle หรือใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงเพื่อลดความเสี่ยง สิ่งสำคัญคือต้องปรับตัวและมีวินัย พัฒนาทักษะและเรียนรู้จากการซื้อขายแต่ละครั้งอย่างต่อเนื่องเพื่อก้าวล้ำหน้าในการซื้อขายไบนารีออปชั่น

คำถามที่พบบ่อย

ตัวบ่งชี้ที่ดีที่สุดสำหรับกลยุทธ์ตัวเลือกไบนารีขั้นสูงคืออะไร

Bollinger Bands, ADX, RSI และ Fibonacci Retracement เป็นตัวบ่งชี้ที่ได้รับความนิยมในการระบุแนวโน้ม ความผันผวน และจุดกลับตัวในกลยุทธ์ไบนารีออปชั่นขั้นสูง

ฉันควรใช้เวลาหมดอายุเท่าไรสำหรับกลยุทธ์ตัวเลือกไบนารีขั้นสูง?

การหมดอายุในระยะสั้นเหมาะกับตลาดที่มีความผันผวน ระยะกลางเหมาะกับการติดตามแนวโน้ม ส่วนการหมดอายุในระยะยาวเหมาะสำหรับการวิเคราะห์แนวโน้มพื้นฐาน

ฉันจะจัดการความเสี่ยงได้อย่างไรเมื่อใช้กลยุทธ์ตัวเลือกไบนารีขั้นสูง?

จัดการความเสี่ยงด้วยการจำกัดขนาดการซื้อขาย กระจายสินทรัพย์ และใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคเพื่อยืนยันการซื้อขาย ในขณะที่หลีกเลี่ยงการซื้อขายมากเกินไป

เวลาที่ดีที่สุดในการใช้กลยุทธ์ straddle ในการซื้อขายไบนารี่ออปชั่นคือเมื่อไหร่?

กลยุทธ์แบบ straddle เหมาะที่สุดที่จะใช้ในช่วงที่มีความผันผวนสูง เช่น ช่วงเวลาที่มีการประกาศเศรษฐกิจสำคัญ เมื่อทิศทางของตลาดไม่แน่นอน

ทีมงานที่จัดทำบทความนี้

Mikhail Vnuchkov
ผู้เขียนของ Traders Union

มิคาอิล วนุชคอฟเข้าร่วมทีม Traders Union ในฐานะนักเขียนในปี 2020 เขาเริ่มต้นอาชีพในฐานะนักข่าวผู้สังเกตการณ์ที่สิ่งพิมพ์ทางการเงินออนไลน์ขนาดเล็กแห่งหนึ่ง โดยเขารายงานเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจระดับโลกและหารือเกี่ยวกับผลกระทบที่มีต่อกลุ่มการลงทุนทางการเงิน รวมถึงรายได้ของนักลงทุน ด้วยประสบการณ์ด้านการเงิน 5 ปี มิคาอิลเข้าร่วมทีม Traders Union ซึ่งเขารับผิดชอบในการจัดทำกลุ่มข่าวล่าสุดสำหรับเทรดเดอร์ที่ซื้อขายหุ้น สกุลเงินดิจิทัล ตราสารฟอเร็กซ์ และตราสารหนี้

อภิธานศัพท์สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
การซื้อขายมากเกินไป

การซื้อขายมากเกินไปเป็นปรากฏการณ์ที่เทรดเดอร์ทำธุรกรรมในตลาดมากเกินไป เกินกว่ากลยุทธ์และการซื้อขายบ่อยกว่าที่วางแผนไว้ เป็นข้อผิดพลาดทั่วไปที่อาจนำไปสู่ความสูญเสียทางการเงิน

โอนเงิน

การโอนเงินผ่านธนาคารเป็นวิธีการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีการส่งเงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งหนึ่งไปยังอีกธนาคารหนึ่ง โดยทั่วไปจะข้ามขอบเขตระหว่างประเทศหรือในประเทศ โดยให้ผู้ส่งแจ้งคำแนะนำเฉพาะแก่ธนาคาร รวมถึงรายละเอียดธนาคารของผู้รับและจำนวนเงินที่จะโอน จากนั้นเงินจะถูกย้ายทางอิเล็กทรอนิกส์จากบัญชีของผู้ส่งไปยังบัญชีของผู้รับ

การซื้อขาย

การซื้อขายเกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น สกุลเงิน หรือสินค้าโภคภัณฑ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคาในตลาด เทรดเดอร์ใช้กลยุทธ์ เทคนิคการวิเคราะห์ และแนวทางปฏิบัติในการบริหารความเสี่ยงที่หลากหลาย เพื่อตัดสินใจอย่างมีข้อมูลและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในตลาดการเงิน

ทำกำไร

คำสั่ง Take-Profit คือคำสั่งการซื้อขายประเภทหนึ่งที่สั่งให้นายหน้าปิดสถานะเมื่อตลาดถึงระดับกำไรที่ระบุ

นักลงทุน

นักลงทุนคือบุคคลที่นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์โดยคาดหวังว่ามูลค่าของสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้นในอนาคต สินทรัพย์อาจเป็นอะไรก็ได้ รวมถึงพันธบัตร หุ้นกู้ กองทุนรวม หุ้น ทองคำ เงิน กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) และอสังหาริมทรัพย์