คู่สกุลเงินที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขาย 2025

หมายเหตุบรรณาธิการ: แม้ว่าเราจะปฏิบัติตามมาตรฐานบรรณาธิการที่เข้มงวด แต่โพสต์นี้อาจมีการอ้างอิงถึงผลิตภัณฑ์จากพันธมิตรของเรา นี่คือคำอธิบายเกี่ยวกับวิธีที่เราทำเงิน ข้อมูลและข้อมูลใด ๆ บนหน้าเว็บนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุนตามข้อจำกัดความรับผิดของเรา
คู่สกุลเงินที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขาย:
ตลาด Forex เป็นตลาดซื้อขายที่ใหญ่ที่สุดและมีความผันผวนมากที่สุดในโลก เนื่องจากมี คู่สกุลเงิน จำนวนมาก เทรดเดอร์จำนวนมากจึงประสบปัญหาในการตัดสินใจว่าคู่สกุลเงินใดทำกำไรได้มากที่สุดใน Forex ผู้เชี่ยวชาญของเราได้ทำการวิจัยเพื่อให้คุณเข้าใจได้ง่ายขึ้น บทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าคู่ Forex ใดดีที่สุดสำหรับการซื้อขาย การใช้ข้อมูลที่นำเสนอในบทความนี้จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการซื้อขาย Forex ของคุณ
คู่สกุลเงิน Forex ที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขาย
ในปี 2025 ตลาด Forex ยังคงมีคู่สกุลเงินหลักหลายคู่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องสภาพคล่องและโอกาสในการซื้อขาย นี่คือ 6 คู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุด:
EUR/USD (ยูโร / ดอลลาร์สหรัฐ)
คู่สกุล EUR/USD เป็นคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก คิดเป็นสัดส่วนที่สำคัญของมูลค่าการซื้อขาย Forex ทั้งหมด คู่สกุลเงินนี้ได้รับประโยชน์จากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของทั้งเขตยูโรและสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้มีสภาพคล่องสูงและสเปรดแคบ การเคลื่อนไหวได้รับอิทธิพลจากข้อมูลเศรษฐกิจ การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางสหรัฐ และเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อภูมิภาคเหล่านี้
USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น)
คู่สกุล USD/JPY มีการซื้อขายกันอย่างแพร่หลาย สะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น คู่สกุลเงินนี้ขึ้นชื่อในเรื่องสภาพคล่องสูง ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคู่สกุลเงินนี้ ได้แก่ ความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ย ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจ และเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
GBP/USD (ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐ)
คู่สกุล GBP/USD ที่รู้จักกันในชื่อ "Cable" เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ การเคลื่อนไหวของคู่สกุลเงินนี้ขับเคลื่อนโดยข้อมูลเศรษฐกิจ การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งอังกฤษและธนาคารกลางสหรัฐ และเหตุการณ์ทางการเมือง เช่น พัฒนาการของ Brexit
AUD/USD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ดอลลาร์สหรัฐ)
คู่สกุล AUD/USD เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับเศรษฐกิจของออสเตรเลีย ซึ่งพึ่งพาการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น แร่ธาตุและโลหะเป็นอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และข้อมูลเศรษฐกิจของออสเตรเลีย รวมถึงการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางออสเตรเลีย ส่งผลกระทบอย่างมากต่อคู่สกุลเงินนี้
USD/CAD (ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์แคนาดา)
คู่สกุล USD/CAD ได้รับอิทธิพลจากความสัมพันธ์ทางการค้าและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะน้ำมัน เศรษฐกิจของแคนาดาพึ่งพาการส่งออกน้ำมันเป็นอย่างมาก ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันจึงส่งผลโดยตรงต่อมูลค่าของดอลลาร์แคนาดา ข้อมูลเศรษฐกิจและการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งแคนาดาและธนาคารกลางสหรัฐก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน
USD/CHF (ดอลลาร์สหรัฐ/ฟรังก์สวิส)
คู่สกุลเงิน USD/CHF เกี่ยวข้องกับดอลลาร์สหรัฐและฟรังก์สวิส โดยฟรังก์ถือเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย คู่สกุลเงินนี้ได้รับผลกระทบจากความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ย ข้อมูลเศรษฐกิจ และเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ผลักดันให้นักลงทุนหันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า การตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสวิสยังส่งผลกระทบต่อคู่สกุลเงินนี้ด้วย
วิธีการเลือกคู่สกุลเงินในการซื้อขาย Forex
การเลือกคู่เงินที่เหมาะสมจะสอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินและกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ ต่อไปนี้คือขั้นตอนบางส่วนที่จะช่วยแนะนำคุณตลอดกระบวนการสำคัญนี้
เข้าใจคู่สำคัญ คู่รอง และคู่พิเศษ
ในตลาด Forex คู่สกุลเงินจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ คู่สกุลเงินหลัก คู่สกุลเงินรอง และคู่สกุลเงินแปลกใหม่ คู่สกุลเงินหลักเป็นคู่ที่มีการซื้อขายมากที่สุดและได้แก่ USD, EUR และ JPY คู่สกุลเงินเหล่านี้มีสภาพคล่องสูงและสเปรดแคบกว่า คู่สกุลเงินรองเกี่ยวข้องกับสกุลเงินที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักและมักมีสเปรดที่กว้างกว่า คู่สกุลเงินแปลกใหม่มักประกอบด้วยสกุลเงินหลักและสกุลเงินจากเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนา คู่สกุลเงินเหล่านี้มีสภาพคล่องน้อยกว่าและมีค่าสเปรดที่สูงกว่า
การเลือกหมวดหมู่ที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับความเสี่ยงของคุณ คู่เงินหลักถือเป็นการเดิมพันที่ปลอดภัยกว่าสำหรับผู้เริ่มต้นเนื่องจากมีสภาพคล่องสูง คู่เงินรองและคู่เงินพิเศษอาจให้ผลกำไรที่สูงกว่าแต่มีความเสี่ยงมากกว่า
วิเคราะห์กลยุทธ์การซื้อขายของคุณ
คู่สกุลเงินที่คุณเลือกควรสอดคล้องกับ กลยุทธ์การซื้อขาย ของคุณ นักเก็งกำไรและเดย์เทรดเดอร์อาจชอบคู่สกุลเงินหลักมากกว่าเนื่องจากมีสเปรดที่ต่ำกว่า ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ต้องการกำไรในระยะยาวอาจเลือกคู่สกุลเงินพิเศษ เนื่องจากคู่สกุลเงินเหล่านี้สามารถให้ราคาแกว่งตัวได้มากกว่าในระยะยาว ควรทดสอบกลยุทธ์ของคุณย้อนหลังกับคู่สกุลเงินที่คุณกำลังพิจารณาอยู่เสมอ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแผนการจัดการความเสี่ยงของคุณสอดคล้องกับคู่สกุลเงินที่คุณเลือกและกรอบเวลาการซื้อขาย
ติดตามข่าวสาร
อัปเดตข่าวสารและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อคู่สกุลเงินที่คุณซื้อขายอยู่เสมอ ใช้การวิเคราะห์พื้นฐานเพื่อประเมินว่าการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย อัตราการว่างงาน หรือเสถียรภาพทางการเมืองอาจส่งผลต่อมูลค่าของสกุลเงินอย่างไร ติดตาม ปฏิทินเศรษฐกิจ และติดตามแหล่งข่าวทางการเงินที่เชื่อถือได้เพื่อให้ก้าวล้ำหน้าคู่แข่ง
ใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค
แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานจะให้ภาพรวมได้ แต่ การวิเคราะห์ทางเทคนิค จะช่วยให้คุณเจาะลึกพฤติกรรมราคาได้ ตัวบ่งชี้เช่นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ RSI หรือ Bollinger Bands สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอารมณ์ของตลาดได้ หากคู่สกุลเงินสอดคล้องกับตัวบ่งชี้ทางเทคนิคของคุณ คู่สกุลเงินนั้นอาจเป็นตัวเลือกที่ดี
ประเมินต้นทุนธุรกรรม
การซื้อขายแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่าย ซึ่งมักจะสะท้อนให้เห็นได้จากค่าสเปรด คู่สกุลเงินหลักมักจะมีค่าสเปรดต่ำกว่าเมื่อเทียบกับคู่สกุลเงินรองหรือสกุลเงินแปลกใหม่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่าใช้จ่ายจะไม่กินกำไรของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณวางแผนที่จะทำการซื้อขายหลายครั้งในระยะเวลาสั้นๆ
เราได้คัดเลือก โบรกเกอร์ ที่ทำการซื้อขายคู่สกุลเงิน โดยนำเสนอแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้เพื่อโอกาสการซื้อขายที่ดีกว่า
เงินฝากขั้นต่ำ, $ | เลเวอเรจสูงสุด | ค่ามัดจำ % | ค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งาน $ | สเปรดขั้นต่ำ EUR/USD, pips | สเปรดสูงสุด EUR/USD, pips | เปิดบัญชี | |
---|---|---|---|---|---|---|---|
100 | 1:500 | ไม่มี | ไม่มี | 0,4 | 1,5 | เปิดบัญชี เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง
|
|
5 | 1:1000 | ไม่มี | 10 | 0,7 | 1,2 | เปิดบัญชี เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง |
|
10 | 1:2000 | ไม่มี | ไม่มี | 0,5 | 2 | เปิดบัญชี เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง |
|
10 | 1:2000 | ไม่มี | ไม่มี | 0,6 | 1,5 | เปิดบัญชี เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง |
|
100 | 1:500 | ไม่มี | ไม่มี | 0,4 | 1,2 | เปิดบัญชี เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง
|
เวลาที่ดีที่สุดในการซื้อขายคู่สกุลเงิน Forex คือเมื่อใด?
ตลาด Forex เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ และแบ่งออกเป็น 4 ช่วงเวลาซื้อขายหลัก ได้แก่ ซิดนีย์ โตเกียว ลอนดอน และนิวยอร์ก แต่ละช่วงเวลาซื้อขายจะมีลักษณะการซื้อขายเฉพาะตัว ซึ่งได้รับอิทธิพลจากประเทศต่างๆ ที่มีการซื้อขายในช่วงเวลาดังกล่าว การทราบเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของช่วงเวลาซื้อขายเหล่านี้จะช่วยให้คุณปรับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณให้เหมาะสมได้
เซสชั่นซิดนีย์
เซสชันซิดนีย์ เริ่มต้นเวลา 17.00 น. EST และสิ้นสุดเวลา 02.00 น. EST ถือเป็นการเริ่มต้นสัปดาห์การซื้อขายและส่วนใหญ่จะเน้นที่ดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการซื้อขายคู่เงิน AUD และ NZD แม้ว่าจะเป็นเซสชันที่มีความผันผวนน้อยที่สุดก็ตาม
เซสชั่นโตเกียว
เซสชั่นโตเกียว เปิดทำการตั้งแต่เวลา 19.00 น. EST ถึง 04.00 น. EST ในช่วงเวลาดังกล่าว สกุลเงินต่างๆ เช่น JPY และ AUD จะเคลื่อนไหวมากขึ้น เซสชั่นนี้มีความผันผวนและสภาพคล่องในระดับปานกลาง จึงเหมาะสำหรับผู้ซื้อขายที่ต้องการสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่สมดุล
เซสชั่นลอนดอน
เซสชั่นลอนดอน ดำเนินการ ระหว่าง 03:00 น. EST ถึง 12:00 น. EST เนื่องจากเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญ ลอนดอนจึงมีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด คู่สกุลเงินหลักที่เกี่ยวข้องกับ GBP, EUR และ USD มีความเคลื่อนไหวมากเป็นพิเศษ โดยเปิดโอกาสในการซื้อขายมากมาย
เซสชั่นนิวยอร์ก
การซื้อขาย ระหว่างเวลา 8.00 น. EST ถึง 17.00 น. EST การซื้อขายในนิวยอร์ก จะทับซ้อนกับการซื้อขายในลอนดอนเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมง โดยปกติจะอยู่ระหว่างเวลา 8.00 น. EST ถึง 12.00 น. EST ในช่วงเวลาทับซ้อนนี้ สภาพคล่องและความผันผวนจะพุ่งสูงขึ้น ทำให้เกิดโอกาสมากขึ้นแต่ก็มีความเสี่ยงมากขึ้นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ การซื้อขายยังตรงกับช่วงที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าสกุลเงิน
เวลาซื้อขายที่เหมาะสมที่สุด
ช่วงเวลาการซื้อขายที่เหมาะสม ที่สุดจะเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดทั้งสองเปิดทำการพร้อมกัน ส่งผลให้สภาพคล่องและความผันผวนเพิ่มขึ้น สำรวจ คู่สกุลเงินที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขายในเวลากลางคืน
ลอนดอนและนิวยอร์กทับซ้อนกัน (08:00 น. ถึง 12:00 น. EST): ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่มีการซื้อขายมากที่สุด เนื่องจากเกี่ยวข้องกับศูนย์กลางการเงินหลักสองแห่ง ปริมาณ Forex รายวันมากกว่า 50% เกิดขึ้นในช่วงเวลาทับซ้อนกันนี้ จึงมีโอกาสในการซื้อขายมากมาย
โตเกียวและลอนดอนทับซ้อนกัน (03:00 น. ถึง 04:00 น. EST): การทับซ้อนนี้สั้นกว่าและผันผวนน้อยกว่าแต่ยังคงสร้างโอกาสได้ โดยเฉพาะสำหรับคู่เงินที่เกี่ยวข้องกับเงินเยนของญี่ปุ่นและสกุลเงินยุโรป
ใช้ประโยชน์จากเซสชันการซื้อขายที่ทับซ้อนกัน
เคล็ดลับสำหรับมือใหม่คือให้ ซื้อขายในช่วงเวลาที่ตลาด Forex หลักทับซ้อนกัน ตัวอย่างเช่น ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กเปิดทำการระหว่าง 8.00 น. ถึง 12.00 น. EST ทำให้มีการซื้อขายที่คึกคักมากขึ้น และมีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น การเน้นที่คู่เงินอย่าง EUR/USD และ GBP/USD ในช่วงเวลาดังกล่าวอาจเป็นประโยชน์ เนื่องจากการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นมักส่งผลให้ราคาเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด
กลยุทธ์ที่มีประโยชน์อีกอย่างหนึ่งคือการ จับตาดูสกุลเงินที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) และดอลลาร์แคนาดา (CAD) AUD มักเคลื่อนไหวตามราคาทองคำ ในขณะที่ CAD เชื่อมโยงกับราคาน้ำมัน การติดตามข้อมูลสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าสกุลเงินเหล่านี้อาจเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด ตัวอย่างเช่น หากราคาทองคำสูงขึ้น คู่ AUD/USD อาจเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเป็นโอกาสในการซื้อขาย แนวทางนี้จะเพิ่มชั้นเชิงอีกชั้นหนึ่งในการตัดสินใจซื้อขายของคุณ และสามารถช่วยให้คุณกระจายความเสี่ยงของกลยุทธ์ของคุณได้
สรุป
การซื้อขายคู่สกุลเงิน Forex ช่วยให้คุณทำกำไรได้ดี แต่ประสบการณ์ ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และกลยุทธ์การซื้อขายของคุณจะเป็นตัวกำหนดว่าคู่สกุลเงินใดดีที่สุดสำหรับการซื้อขาย อย่างไรก็ตาม การซื้อขายคู่สกุลเงินหลัก เช่น EUR/USD, USD/JPY, USD/CAD เป็นต้น ถือเป็น ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น เนื่องจากเป็นคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดและมีสภาพคล่องสูง
แม้ว่าการซื้อขาย Forex อาจทำกำไรได้ แต่การเข้าใจข้อดีและข้อเสียของการซื้อขาย Forex และรู้ว่าคุณเต็มใจที่จะเสี่ยงแค่ไหนถือเป็นสิ่งสำคัญ คำแนะนำในการซื้อขายของเราจะช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อขายได้ดีที่สุด
คำถามที่พบบ่อย
เวลาที่ดีที่สุดในการเทรด Forex คือเมื่อไหร่?
เวลาที่ดีที่สุดในการซื้อขายจะขึ้นอยู่กับคู่ที่คุณต้องการซื้อขายและเขตเวลาของคุณ ตัวอย่างเช่น ผู้ซื้อขายช่วงกลางคืนในสหรัฐอเมริกาสามารถซื้อขายได้เฉพาะตลาดอเมริกาและเอเชียเท่านั้น เนื่องจากยุโรปและตะวันออกกลางอาจปิดทำการ
ฉันจะเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุดได้อย่างไร?
คุณต้องการโบรกเกอร์ที่ตอบสนองความต้องการในการซื้อขายของคุณมากที่สุด ประวัติของบริษัท ข้อกำหนดในการฝากเงิน จำนวนสเปรด เครื่องมือการซื้อขาย เครื่องมือทางการศึกษา และความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา
คู่สกุลเงินใดที่มีการซื้อขายมากที่สุด?
คู่สกุล EUR/USD คิดเป็น 22.7% ของการซื้อขาย Forex รายวัน ทำให้เป็นคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดในตลาด Forex โดยคู่สกุลเงินนี้ประกอบด้วยสองเศรษฐกิจที่ดีที่สุดในโลกที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด
ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อการเลือกคู่สกุลเงินในการซื้อขาย?
ปัจจัยหลัก ได้แก่ สภาพคล่อง ความผันผวน ประเภทสเปรด และความน่าจะเป็นของสลิปเพจ โดยพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้ คู่สกุลเงินหลักจึงถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่
บทความที่เกี่ยวข้อง
ทีมงานที่จัดทำบทความนี้
Parshwa เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาและมืออาชีพด้านการเงินที่มีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นและออปชั่น การวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐาน และการวิจัยด้านทุน ในฐานะผู้เข้ารอบสุดท้ายในฐานะผู้ตรวจสอบบัญชี Parshwa ยังมีความเชี่ยวชาญด้าน Forex การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล และภาษีส่วนบุคคล ประสบการณ์ของเขาได้รับการพิสูจน์จากบทความเกี่ยวกับ Forex สกุลเงินดิจิทัล หุ้น และการเงินส่วนบุคคลมากกว่า 100 บทความ ควบคู่ไปกับบทบาทที่ปรึกษาเฉพาะบุคคลในการให้คำปรึกษาด้านภาษี
คำสั่ง Take-Profit คือคำสั่งการซื้อขายประเภทหนึ่งที่สั่งให้นายหน้าปิดสถานะเมื่อตลาดถึงระดับกำไรที่ระบุ
นักลงทุนคือบุคคลที่นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์โดยคาดหวังว่ามูลค่าของสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้นในอนาคต สินทรัพย์อาจเป็นอะไรก็ได้ รวมถึงพันธบัตร หุ้นกู้ กองทุนรวม หุ้น ทองคำ เงิน กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) และอสังหาริมทรัพย์
สกุลเงินดิจิทัลเป็นสกุลเงินดิจิทัลหรือเสมือนประเภทหนึ่งที่ต้องอาศัยการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย ต่างจากสกุลเงินแบบดั้งเดิมที่ออกโดยรัฐบาล (สกุลเงิน fiat) สกุลเงินดิจิทัลทำงานบนเครือข่ายแบบกระจายอำนาจ ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน
เดย์เทรดเดอร์คือบุคคลที่มีส่วนร่วมในการซื้อและขายสินทรัพย์ทางการเงินภายในวันซื้อขายเดียวกัน โดยแสวงหาผลกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น
การซื้อขายเกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น สกุลเงิน หรือสินค้าโภคภัณฑ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคาในตลาด เทรดเดอร์ใช้กลยุทธ์ เทคนิคการวิเคราะห์ และแนวทางปฏิบัติในการบริหารความเสี่ยงที่หลากหลาย เพื่อตัดสินใจอย่างมีข้อมูลและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในตลาดการเงิน