เทรดออนไลน์เริ่มต้นง่ายที่นี่
TH /th/interesting-articles/how-to-buy-gold/prediction-for-2040-2050/
AR Arabic
AZ Azerbaijan
CS Czech
DA Danish
DE Deutsche
EL Greek
EN English
ES Spanish
ET Estonian
FI Finnish
FR French
HE Hebrew
HI Hindi
HU Hungarian
IND Indonesian
IT Italian
JA Japan
KK Kazakh
KM Khmer
KO Korean
MS Melayu
NB Norwegian
NL Dutch
PL Polish
PT Portuguese
RO Romanian
... Русский
SV Swedish
TH Thai
TR Turkish
UA Ukrainian
UZ Uzbek
VI Vietnamese
ZH Chinese

ทองคำจะมีมูลค่าเท่าไรในปี 2040 และ 2050?

หมายเหตุบรรณาธิการ: แม้ว่าเราจะปฏิบัติตามมาตรฐานบรรณาธิการที่เข้มงวด แต่โพสต์นี้อาจมีการอ้างอิงถึงผลิตภัณฑ์จากพันธมิตรของเรา นี่คือคำอธิบายเกี่ยวกับวิธีที่เราทำเงิน ข้อมูลและข้อมูลใด ๆ บนหน้าเว็บนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุนตามข้อจำกัดความรับผิดของเรา

ศักยภาพการลงทุนในระยะยาวของทองคำยังคงสูง โดยมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายในปี 2040-2050 สถาบันต่างๆ ให้การคาดการณ์ที่แตกต่างกัน โดยมีการประมาณการตั้งแต่ 2,500 ดอลลาร์ถึง 10,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำเป็นต้องทำการวิจัยและพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

ในอดีต ราคาทองคำได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละประมาณ 7% ในระยะยาว ซึ่งทำให้ทองคำ XAUUSD คืออะไร: คำแนะนำฉบับสมบูรณ์

ศักยภาพการลงทุนในระยะยาวของทองคำยังคงแข็งแกร่ง โดยมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากภายในปี 2583-2593

คาดการณ์ราคาทองคำและเงินในช่วงปี 2040 – 2050

การคาดการณ์ราคาทองคำและเงินตั้งแต่ปี 2040 ถึงปี 2050 นั้นต้องพิจารณาสิ่งต่างๆ ที่อาจทำให้ราคาเพิ่มขึ้นในปีต่อๆ ไป

World Gold Council คาดการณ์ว่าอุปทานทองคำจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป 1.7% ต่อปีจนถึงปี 2040 อย่างไรก็ตาม การเติบโตที่คาดการณ์ไว้ของอุปสงค์อาจเกินอุปทาน ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่สมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์ และราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นตามมา นักลงทุนจำเป็นต้องติดตามพลวัตของตลาดอย่างใกล้ชิด

คาดการณ์ราคาทองคำปี 2040

เมื่อมองไปข้างหน้าถึงปี 2040 ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่ได้รับการยอมรับได้แบ่งปันการคาดการณ์ที่หลากหลายเกี่ยวกับราคาทองคำ โดยเจาะลึกถึงผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผลลัพธ์เหล่านั้น

  • World Gold Council (WGC) มีมุมมองในแง่ดี โดยคาดการณ์ราคาทองคำไว้ที่ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2040 มุมมองในแง่ดีนี้มาจากความเชื่อมั่นอย่างมั่นคงว่าทองคำจะยังคงมีเสน่ห์ดึงดูดใจในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและสามารถป้องกันความเสี่ยงจากผลกระทบที่กัดกร่อนของภาวะเงินเฟ้อได้อย่างมีประสิทธิผล

  • Goldman Sachs มีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้น โดยคาดการณ์ราคาทองคำในปี 2040 ว่าจะอยู่ที่ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การคาดการณ์ที่สูงขึ้นนี้บ่งชี้ถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ โดยคาดการณ์อนาคตที่ทองคำจะกลายเป็นตัวเลือกการลงทุนที่สำคัญที่สุดท่ามกลางพลวัตของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

  • Barclays มีจุดยืนที่อนุรักษ์นิยมมากขึ้น โดยคาดการณ์ราคาทองคำที่ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2040 การคาดการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่าราคาทองคำจะยังคงมีแนวโน้มขาขึ้นต่อไป แม้ว่าการขึ้นจะค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับการคาดการณ์ที่เป็นขาขึ้น

  • Morgan Stanley คาดการณ์ราคาทองคำในปี 2040 ไว้ที่ 2,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การคาดการณ์นี้ช่วยเพิ่มความละเอียดอ่อนให้กับภาพรวมโดยรวม ซึ่งบ่งบอกถึงการมองในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของทองคำในระดับหนึ่ง

  • JPMorgan Chase คาดการณ์ราคาทองคำในปี 2040 ที่ 2,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของ Morgan Stanley อย่างมาก โดยบ่งชี้ถึงมุมมองร่วมกันเกี่ยวกับแนวโน้มราคาทองคำในอนาคต

การคาดการณ์ที่หลากหลายเหล่านี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำที่อาจนำไปสู่ปี 2040

คาดการณ์ราคาทองคำปี 2593

ผู้เชี่ยวชาญมองไปข้างหน้าถึงอนาคตของทองคำโดยคาดการณ์ราคาทองคำในปี 2593 ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนว่าทองคำจะเป็นอย่างไรในอนาคต

  • World Gold Council (WGC) คาดการณ์ราคาทองคำแตะระดับ 6,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากการคาดการณ์ในปี 2040 และแสดงความเชื่อมั่นในการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำในระยะยาว

  • Goldman Sachs มีท่าทีมองโลกในแง่ดีมากขึ้น โดยคาดการณ์ราคาทองคำแตะระดับ 10,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งบ่งชี้ถึงความคาดหวังถึงการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่สำคัญ และความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

  • ในทางตรงกันข้าม Barclays ยังคงมีแนวโน้มระมัดระวัง โดยคาดการณ์ราคาทองคำที่ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2593 ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ที่มองในแง่ดีมากนัก

  • Morgan Stanley มีแนวคิดใกล้ชิดกับ WGC โดยคาดการณ์ราคาทองคำไว้ที่ 6,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งบ่งชี้ถึงการเติบโตที่สำคัญแต่ก็เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป

  • JPMorgan Chase คาดการณ์ราคาทองคำอยู่ที่ 7,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งสอดคล้องกับช่วงคาดการณ์ทั่วไป

สิ่งสำคัญคือต้องยอมรับว่าการคาดการณ์เหล่านี้ไม่ใช่ความแน่นอน ตลาดการเงินนั้นคาดเดาไม่ได้โดยเนื้อแท้ และความซับซ้อนของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อราคาทองคำยังเพิ่มความไม่แน่นอนอีกด้วย นักลงทุนต้องระมัดระวังและตระหนักถึงธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดเดาได้ของ ตลาดทองคำ หากคุณสนใจการคาดการณ์ราคาทองคำรายวันพร้อมแผนภูมิและการวิเคราะห์ปัจจัยมหภาค เราขอแนะนำให้ดูการวิเคราะห์ราคาทองคำรายวันโดยผู้เชี่ยวชาญ TU

ซื้อขาย XAU/USD ที่ไหน?

หากต้องการซื้อขายทองคำอย่างมีประสิทธิภาพ คุณควรค้นหาโบรกเกอร์ที่สนับสนุนการซื้อขาย XAU/USD ในสินทรัพย์ต่างๆ นอกจากนี้ โบรกเกอร์เหล่านี้ยังสามารถเสนอการซื้อขาย ETF และความสามารถในการซื้อขายหุ้นของบริษัทขุดทองคำได้อีกด้วย นอกจากนี้ โบรกเกอร์เหล่านี้ควรมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ต่ำและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่เชื่อถือได้ เพื่อให้แน่ใจว่าสภาพแวดล้อมการซื้อขายจะปลอดภัย

โบรกเกอร์ซื้อขายทองคำ
XAU/USD หรือ ทองคำฟิวเจอร์ส การซื้อขายหุ้น กองทุน ETF ระเบียบข้อบังคับ ECN เปิดบัญชี

Pepperstone

มี มี มี ASIC, FCA, DFSA, BaFin, CMA, SCB, CySec มี เปิดบัญชี
เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

IG Markets

มี มี มี FCA, BaFin, ASIC, MAS, CySec, FINMA, BMA, CFTC, NFA มี อ่านรีวิว

OANDA

มี มี ไม่มี FSC (BVI), ASIC, IIROC, FCA, CFTC, NFA มี เปิดบัญชี
เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

วิธีการเริ่มต้นลงทุนในทองคำ

ทองคำซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและมีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าในระยะยาวนั้นดึงดูดนักลงทุนจำนวนมาก การพิจารณาตัวเลือกต่างๆ ในตลาดทองคำ โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้นนั้นอาจเป็นเรื่องยาก ต่อไปนี้คือรายละเอียดของทางเลือกต่างๆ ที่ควรพิจารณา:

ทองคำแท่ง

  • เหรียญและแท่งทองคำ: การเป็นเจ้าของเหรียญและแท่งทองคำทำให้สามารถควบคุมได้และเข้าถึงได้ทันที ตัวเลือกยอดนิยมได้แก่ American Eagles Krugerrands และแท่งทองคำแท่ง

  • เครื่องประดับ: การลงทุนในเครื่องประดับทองคำช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับพอร์ตการลงทุน อย่างไรก็ตาม มูลค่าจะขึ้นอยู่กับเนื้อทองและฝีมือการผลิต ซึ่งต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

กระดาษทอง

  • สัญญา ซื้อขายล่วงหน้าและออปชั่น: สัญญาเหล่านี้ให้ความเสี่ยงต่อราคาทองคำโดยไม่ต้องมีทรัพย์สินจริง แม้จะให้ความยืดหยุ่นและศักยภาพในการกู้ยืม แต่สัญญาเหล่านี้ก็มีความเสี่ยงที่สูงกว่า ซึ่งต้องใช้ความเข้าใจที่ซับซ้อนเกี่ยวกับการซื้อขายตราสารอนุพันธ์

  • กองทุนรวมและ ETFs: กองทุนการลงทุนเหล่านี้รวมสินทรัพย์เข้าด้วยกัน โดยให้ความเสี่ยงจากทองคำที่หลากหลายโดยไม่ต้องเลือกรายบุคคล กองทุนเหล่านี้มีความเสี่ยงต่ำกว่าเมื่อเทียบกับฟิวเจอร์สและออปชั่นในขณะที่ยังคงสภาพคล่อง

การลงทุนทางอ้อมในหุ้นของบริษัทเหมืองทองคำ: การลงทุนในหุ้นของบริษัทเหมืองทองคำช่วยให้ได้รับผลประโยชน์ทางอ้อมจากตลาดทองคำ กลยุทธ์นี้ช่วยให้กระจายความเสี่ยงในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความผันผวนของแต่ละบริษัทและแต่ละภาคส่วนด้วย

การลงทุนในทองคำนั้นให้ผลตอบแทนดีสำหรับการกระจายพอร์ตการลงทุนและการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ การทำความเข้าใจทางเลือกที่มีอยู่และพิจารณาถึงสถานการณ์เฉพาะตัวของคุณ จะทำให้คุณสามารถตัดสินใจลงทุนอย่างรอบรู้และใช้ประโยชน์จากศักยภาพของทองคำในการเพิ่มมูลค่าในระยะยาวได้

จะหาเวลาที่เหมาะสมในการลงทุนทองคำอย่างไร?

แม้ว่าแนวโน้มระยะยาวของทองคำยังคงเป็นไปในเชิงบวก แต่การระบุช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลงทุนจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนของคุณได้อย่างมาก การทำความเข้าใจเทคนิคและตัวบ่งชี้การวิเคราะห์ทางเทคนิคจะช่วยให้คุณรับมือกับความผันผวนของตลาดและตัดสินใจอย่างชาญฉลาดว่าจะเข้าสู่ตลาดทองคำเมื่อใด

การระบุระดับการสนับสนุนและการต้านทาน

  • ระดับแนวรับ เป็นจุดราคาที่ผู้ซื้อมีแนวโน้มที่จะเข้ามาและป้องกันไม่ให้ราคาลดลงต่อไป ราคามีแนวโน้มที่จะดีดตัวออกจากระดับแนวรับ ทำให้เกิดโอกาสในการซื้อ

  • ระดับแนวต้าน แสดงถึงจุดราคาที่แรงขายเพิ่มขึ้น และราคามีแนวโน้มจะหยุดชะงักหรือเปลี่ยนทิศทาง การระบุระดับแนวต้านสามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการซื้อเมื่อถึงจุดสูงสุดและคาดการณ์การย่อตัวที่อาจเกิดขึ้นได้

ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค

ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคหลายตัวสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับความรู้สึกของตลาดและการเคลื่อนไหวของราคาที่อาจเกิดขึ้นได้ ตัวบ่งชี้ที่นิยมใช้ในการวิเคราะห์ทองคำ ได้แก่:

  • Moving Averages: ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เหล่านี้จะช่วยปรับความผันผวนของราคาและช่วยระบุแนวโน้มได้ การตัดกันของ moving averages แตกต่างกันสามารถส่งสัญญาณถึงโอกาสในการซื้อหรือขายที่อาจเกิดขึ้นได้

  • Relative Strength Index (RSI): ตัวบ่งชี้ตัวนี้วัดความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวของราคาและระบุสภาวะซื้อมากเกินไปและขายมากเกินไป

  • แถบ Bollinger: แถบเหล่านี้ขยายและหดตัวตามความผันผวน ซึ่งจะช่วยให้ทราบถึงการทะลุหรือการรวมตัวของราคาที่อาจเกิดขึ้นได้

การวิเคราะห์ความรู้สึกของตลาด

  • ข่าวสารและกิจกรรม: ข่าวเศรษฐกิจโลก เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และนโยบายของธนาคารกลางอาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำได้อย่างมาก การติดตามข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในตลาดได้

  • การสำรวจความรู้สึกของนักลงทุน: การติดตามความรู้สึกของนักลงทุนสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของตลาดและการเคลื่อนไหวราคาที่อาจเกิดขึ้น

นักลงทุนที่ต้องการทำความเข้าใจตลาดทองคำ วิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของราคาที่อาจเกิดขึ้น และตัดสินใจลงทุนอย่างรอบรู้ สามารถอ่านบทความ การวิเคราะห์ทองคำวันนี้ – แนวรับและแนวต้าน XAU/USD เพื่อดูแนวโน้มล่าสุดในตลาดทองคำ

สรุป

แม้ว่าอนาคตจะไม่แน่นอน แต่บทความนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าว่าผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าแรงผลักดันทางเศรษฐกิจและตลาดโดยรวมจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าทองคำในทศวรรษหน้าอย่างไร

แน่นอนว่าการตัดสินใจลงทุนโดยอาศัยการคาดการณ์เพียงอย่างเดียวมีความเสี่ยง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพัฒนาวิธีการเชิงกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ การติดตามแนวโน้มที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิดและใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อเสริมการวิจัยพื้นฐานของคุณ จะช่วยให้คุณระบุโอกาสที่ดีในการสร้างตำแหน่งทองคำผ่านช่องทางที่หลากหลายได้

สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ การรวมทองคำเข้าเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนที่มีการกระจายความเสี่ยงอย่างสมดุลสามารถช่วยป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจได้ แม้ว่าราคาเป้าหมายสูงสุดจะไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ แต่ความสามารถในการฟื้นตัวของทองคำในอดีตบ่งชี้ว่าทองคำน่าจะรักษาอำนาจซื้อได้ดีกว่าสกุลเงินในระยะยาว

แนวทางที่ดีที่สุดคือการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับตัวเลือกต่างๆ กำหนดระดับการจัดสรรที่เหมาะสม และยึดมั่นกับกลยุทธ์ที่มีวินัย เมื่อพิจารณาจากมูลค่าของทองคำที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วและข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต นักลงทุนระยะยาวจึงมีเหตุผลที่ดีในการมองโลกในแง่ดี

ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ

อิกอร์ คราซูลยา ผู้เขียนที่ Traders Union

แม้ว่าการคาดการณ์ราคาทองคำในระยะยาวสำหรับปี 2040-2050 จะแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละสถาบัน แต่การคาดการณ์ส่วนใหญ่เห็นถึงศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าอย่างมากในอนาคต ปัจจัยต่างๆ เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และพลวัตของอุปทาน/อุปสงค์ คาดว่าจะผลักดันให้ราคาทองคำสูงขึ้นต่อไปในทศวรรษหน้า อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ในอนาคตอันไกลโพ้นมักมีความไม่แน่นอนอยู่เสมอ ตลาดทองคำยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และมหภาคที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ สำหรับนักลงทุน การวิจัยลักษณะเฉพาะของทองคำอย่างละเอียดถี่ถ้วนในฐานะตัวกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอและแหล่งเก็บมูลค่าดูเหมือนจะมีความรอบคอบมากกว่าการพึ่งพาการคาดการณ์เพียงแบบเดียว การประเมินความเสี่ยงของทองคำอย่างสม่ำเสมอเมื่อสภาวะตลาดเปลี่ยนแปลงไปอาจช่วยปรับผลตอบแทนในระยะยาวให้เหมาะสมที่สุด โดยรวมแล้ว การรวมการถือครองทองคำบางส่วนดูเหมือนจะเป็นกลยุทธ์ที่สมเหตุสมผลสำหรับนักลงทุนที่มีกรอบเวลาหลายทศวรรษ เนื่องจากโลหะชนิดนี้มีความสามารถในการรักษาอำนาจซื้อในอดีต

คำถามที่พบบ่อย

ในอนาคตทองจะมีราคาแพงขึ้นหรือไม่?

ตาม การคาดการณ์ของ Traders Union อัตรา XAU อาจสูงถึง 2,150.55 ดอลลาร์ USD ภายในปี 2030 และ 2,422.25 ดอลลาร์ USD ภายในปี 2032

ลงทุนในทองคำเป็นเวลา 20 ปี เป็นเรื่องดีหรือเปล่า?

เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มทางประวัติศาสตร์ที่ราคาทองคำเพิ่มขึ้น 7% ต่อปี การลงทุนในทองคำเป็นเวลา 20 ปีจึงถือเป็นการลงทุนที่รอบคอบ อย่างไรก็ตาม การวิจัยอย่างละเอียดและพิจารณาเป้าหมายทางการเงินส่วนบุคคลถือเป็นสิ่งสำคัญ

เพราะเหตุใดมูลค่าทองคำจึงเพิ่มขึ้นในระยะยาว?

ปัจจัยต่างๆ เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจโลก อัตราเงินเฟ้อ และความไม่สมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ล้วนส่งผลให้ราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นักลงทุนมองหาทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน ส่งผลให้ทองคำมีมูลค่าเพิ่มขึ้น

ทองคำในปี 2040, 2050 จะมีมูลค่าเท่าไหร่?

สถาบันต่างๆ เช่น World Gold Council, Goldman Sachs, Barclays, Morgan Stanley และ JPMorgan Chase ต่างก็ให้การคาดการณ์ที่หลากหลาย โดยมีตั้งแต่ 2,500 ดอลลาร์ไปจนถึง 10,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าการคาดการณ์เหล่านี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่า แต่การรับทราบถึงความไม่แน่นอนของตลาดการเงินก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ

ทีมงานที่จัดทำบทความนี้

Upendra Goswami
ผู้ให้ข้อมูล

Upendra Goswami เป็นผู้สร้างเนื้อหาดิจิทัลเต็มเวลา นักการตลาด และนักลงทุนที่กระตือรือร้น ในฐานะผู้สร้าง เขาชื่นชอบการเขียนเกี่ยวกับการซื้อขายออนไลน์ บล็อกเชน สกุลเงินดิจิทัล และการซื้อขายหุ้น

อภิธานศัพท์สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
การซื้อขาย

การซื้อขายเกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น สกุลเงิน หรือสินค้าโภคภัณฑ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคาในตลาด เทรดเดอร์ใช้กลยุทธ์ เทคนิคการวิเคราะห์ และแนวทางปฏิบัติในการบริหารความเสี่ยงที่หลากหลาย เพื่อตัดสินใจอย่างมีข้อมูลและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในตลาดการเงิน

แนวโน้มขาขึ้น

Uptrend คือสภาวะตลาดที่โดยทั่วไปแล้วราคาจะสูงขึ้น แนวโน้มขาขึ้นสามารถระบุได้โดยใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เส้นแนวโน้ม และระดับแนวรับและแนวต้าน

นักลงทุน

นักลงทุนคือบุคคลที่นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์โดยคาดหวังว่ามูลค่าของสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้นในอนาคต สินทรัพย์อาจเป็นอะไรก็ได้ รวมถึงพันธบัตร หุ้นกู้ กองทุนรวม หุ้น ทองคำ เงิน กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) และอสังหาริมทรัพย์

สกุลเงินดิจิทัล

สกุลเงินดิจิทัลเป็นสกุลเงินดิจิทัลหรือเสมือนประเภทหนึ่งที่ต้องอาศัยการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย ต่างจากสกุลเงินแบบดั้งเดิมที่ออกโดยรัฐบาล (สกุลเงิน fiat) สกุลเงินดิจิทัลทำงานบนเครือข่ายแบบกระจายอำนาจ ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน

ความผันผวน

ความผันผวนหมายถึงระดับของการเปลี่ยนแปลงหรือความผันผวนของราคาหรือมูลค่าของสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น พันธบัตร หรือสกุลเงินดิจิทัล ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ความผันผวนที่สูงขึ้นบ่งชี้ว่าราคาของสินทรัพย์กำลังเผชิญกับการแกว่งของราคาที่มีนัยสำคัญและรวดเร็วมากขึ้น ในขณะที่ความผันผวนที่ลดลงบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่ค่อนข้างคงที่และค่อยเป็นค่อยไป