เทรดออนไลน์เริ่มต้นง่ายที่นี่
TH /th/interesting-articles/trading-strategies/swing-trading/
AR Arabic
AZ Azerbaijan
CS Czech
DA Danish
DE Deutsche
EL Greek
EN English
ES Spanish
ET Estonian
FI Finnish
FR French
HE Hebrew
HI Hindi
HU Hungarian
IND Indonesian
IT Italian
JA Japan
KK Kazakh
KM Khmer
KO Korean
MS Melayu
NB Norwegian
NL Dutch
PL Polish
PT Portuguese
RO Romanian
... Русский
SV Swedish
TH Thai
TR Turkish
UA Ukrainian
UZ Uzbek
VI Vietnamese
ZH Chinese

กลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการซื้อขายแบบสวิง

หมายเหตุบรรณาธิการ: แม้ว่าเราจะปฏิบัติตามมาตรฐานบรรณาธิการที่เข้มงวด แต่โพสต์นี้อาจมีการอ้างอิงถึงผลิตภัณฑ์จากพันธมิตรของเรา นี่คือคำอธิบายเกี่ยวกับวิธีที่เราทำเงิน ข้อมูลและข้อมูลใด ๆ บนหน้าเว็บนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุนตามข้อจำกัดความรับผิดของเรา

กลยุทธ์การซื้อขายสวิง Forex ที่ดีที่สุดคือ:

การเทรดแบบสวิง Forex เป็นกลยุทธ์การเทรดที่ได้รับความนิยมซึ่งสามารถช่วยให้เทรดเดอร์จับความเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นถึงระยะกลางในตลาดสกุลเงินได้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการระบุระดับสำคัญของแนวรับและแนวต้านและใช้ประโยชน์จากการสวิงของราคาภายในช่วงนั้น หากต้องการประสบความสำเร็จในการเทรดแบบสวิงในตลาด Forex เทรดเดอร์จำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างมั่นคงเกี่ยวกับตลาดและกลยุทธ์ที่ดีที่สุดที่จะใช้ ในบทความนี้ เราจะสำรวจกลยุทธ์การเทรดแบบสวิงใน Forex ที่ดีที่สุด 6 อันดับแรกพร้อมกับตัวอย่างประกอบ นอกจากนี้ เรายังจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับจุดเข้า เป้าหมาย และจุดตัดขาดทุนที่ดีที่สุดที่จะใช้เมื่อเทรดแบบสวิงใน Forex

กลยุทธ์การซื้อขายสวิง Forex ที่ดีที่สุด

ในส่วนนี้ เราได้สำรวจกลยุทธ์การเทรดสวิง Forex ที่ดีที่สุด ที่สามารถช่วยให้คุณเพิ่มผลกำไรสูงสุดและลดความเสี่ยงของคุณลงได้

trading strategy Fading

Fading Trading Strategy เกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่สวนทางกับโมเมนตัมของตลาด กลยุทธ์นี้หมายความว่าผู้ซื้อขายจะทำตำแหน่งที่สวนทางกับแนวโน้มที่เกิดขึ้นในตลาด ตัวอย่างเช่น เมื่อตลาดกำลังขายออก ผู้ซื้อขายจะทำการซื้อ และเมื่อตลาดกำลังปรับตัวสูงขึ้น ผู้ซื้อขายก็จะทำการขาย

กลยุทธ์นี้มักใช้โดยเทรดเดอร์ที่เชื่อว่าตลาดมีปฏิกิริยาต่อข่าวหรือเหตุการณ์มากเกินไป และในที่สุดราคาจะกลับสู่ค่าเฉลี่ย เทรดเดอร์ Fading จะเลิกเทรดมักจะมองหาระดับแนวรับและแนวต้านเพื่อระบุจุดเข้าและจุดออกที่อาจเกิดขึ้น พวกเขายังใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค เช่น Relative Strength Index (RSI) หรือ ความแตกต่างระหว่าง Moving Average (MACD) เพื่อยืนยันจุดเข้าและจุดออก

กลยุทธ์การซื้อขายแบบซีดจาง Fading Trading Strategy

ในภาพประกอบด้านบน สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เน้นไว้แสดงถึงการมีอยู่ร่วมกันของแนวโน้มที่จางลงและการตัดกันของ MACD โดยทั่วไปแล้ว เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์นี้จะเข้าที่จุดนี้และออกจากจุดที่เกิดสัญญาณขายการตัดกันของ MACD ต่อไปนี้

Bollinger bands strategy

Bollinger Bands Strategy เป็นกลยุทธ์การเทรดแบบสวิง Forex ที่ได้รับความนิยม ซึ่งใช้ตัวบ่งชี้ Bollinger Bands เพื่อระบุโอกาสในการเทรดที่อาจเกิดขึ้น ตัวบ่งชี้นี้ประกอบด้วยเส้น 3 เส้น ได้แก่ เส้นกลางซึ่งแสดงถึง SMA (moving average แบบง่าย) และเส้นบนและเส้นล่างซึ่งสร้างขึ้นตามค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

เส้นกลางซึ่งปกติจะกำหนดเป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 20 วัน ทำหน้าที่เป็นเส้นฐานสำหรับแถบบนและแถบล่าง เมื่อความผันผวนของตลาดเพิ่มขึ้น แถบด้านนอกจะขยายออก และเมื่อความผันผวนลดลง แถบจะหดตัว คุณลักษณะนี้ทำให้ Bollinger Bands Strategy มีประโยชน์อย่างยิ่งในการระบุจุดทะลุ เนื่องจากการขยายแถบสามารถบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่งได้

เส้น SMA ใน Bollinger Bands Strategy ยังมีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์อีกด้วย เทรดเดอร์มักใช้เส้นนี้เพื่อยืนยันสัญญาณซื้อขายที่อาจเกิดขึ้นและพิจารณาว่าตลาดมีแนวโน้มหรืออยู่ในช่วงขาขึ้น แถบล่างและแถบบนยังสามารถทำหน้าที่เป็นระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญได้ และเทรดเดอร์อาจใช้เพื่อระบุจุดเข้าและจุดออกที่อาจเกิดขึ้นได้

กลยุทธ์ Bollinger Bands Bollinger Bands Strategy

การซื้อขายการย้อนกลับของฟีโบนัชชี

Fibonacci Retracement Swing Trading Strategy ถูกใช้โดยเทรดเดอร์ Forex จำนวนมากเพื่อระบุโอกาสในการซื้อขายที่อาจเกิดขึ้น กลยุทธ์นี้ใช้ลำดับ Fibonacci ซึ่งเป็นชุดตัวเลข โดยแต่ละตัวเลขเป็นผลรวมของตัวเลขสองตัวก่อนหน้า

ในแนวทางนี้ เทรดเดอร์จะใช้ระดับ Fibonacci retracement เพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านของตลาดที่มีศักยภาพ ระดับการย้อนกลับเหล่านี้จะถูกกำหนดโดยเชื่อมโยงจุดราคาสำคัญสองจุดบนแผนภูมิกับเส้นแนวโน้ม จากนั้นจึงหารระยะทางแนวตั้งระหว่างจุดเหล่านั้นด้วยอัตราส่วนฟีโบนัชชีที่สำคัญที่ 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8% และ 100%

โดยทั่วไปแล้ว เทรดเดอร์จะมองหาการย้อนกลับที่ระดับสำคัญเหล่านี้ เนื่องจากเชื่อกันว่าระดับเหล่านี้แสดงถึงพื้นที่ที่อาจเกิดแนวรับหรือแนวต้านได้ ตัวอย่างเช่น หากคู่สกุลเงินอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นและเกิดการย่อตัว เทรดเดอร์อาจมองหาการย้อนกลับเพื่อหาแนวรับที่ระดับฟีโบนัชชี 38.2% หรือ 50%

การซื้อขายการย้อนกลับของฟีโบนัชชี การซื้อขาย Fibonacci Retracement

ตัวบ่งชี้ Parabolic SAR

Parabolic Stop and Reverse Indicator แสดงโดยชุดจุดที่ปรากฏด้านบนหรือด้านล่างกราฟราคา และได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ซื้อขายระบุจุดกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นได้

ตัวบ่งชี้นี้คำนวณโดยการวิเคราะห์ทิศทางและความเร็วของการเคลื่อนไหวของราคา เมื่อจุดปรากฏด้านล่างกราฟราคา แสดงว่าผู้ซื้อขายเป็นสัญญาณซื้อหรือขายคู่สกุลเงิน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ในทางกลับกัน เมื่อจุดปรากฏด้านบนกราฟราคา แสดงว่าผู้ซื้อขายเป็นสัญญาณขายหรือขายคู่สกุลเงิน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดอยู่ในแนวโน้มขาลง

ตัวบ่งชี้ SAR แบบพาราโบลา ตัวบ่งชี้ SAR แบบพาราโบลา

trading strategy MACD

เทรดเดอร์ใช้ MACD trading strategy เพื่อระบุแนวโน้มและการกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น กลยุทธ์นี้ใช้ตัวบ่งชี้ Moving Average Convergence Divergence (MACD) ซึ่งประกอบด้วยเส้น 2 เส้น ได้แก่ เส้น MACD และเส้นสัญญาณ

ในการสร้างเส้น MACD จะต้องลบ Moving Average โปเนนเชียล 12 วัน (EMA) ออกจาก EMA 26 วัน ในขณะเดียวกัน เส้นสัญญาณจะได้มาจาก EMA 9 วันของเส้น MACD เทรดเดอร์จะวิเคราะห์ปฏิสัมพันธ์ระหว่างเส้นทั้งสองนี้เพื่อตรวจจับโอกาสที่เป็นไปได้ในการซื้อหรือขาย

เมื่อเส้น MACD ตัดผ่านเหนือเส้นสัญญาณ ถือเป็นสัญญาณขาขึ้น และผู้ซื้อขายอาจมองหาตำแหน่งซื้อ ในทางกลับกัน เมื่อเส้น MACD ตัดผ่านต่ำกว่าเส้นสัญญาณ ถือเป็นสัญญาณขาลง และผู้ซื้อขายอาจมองหาตำแหน่งขาย

กลยุทธ์การซื้อขาย MACD MACD trading strategy

Breakout trading strategy

Breakout trading เน้นที่การเข้าซื้อเมื่อแนวโน้มใหม่เริ่มขึ้น ผู้ซื้อขายมองหาคู่สกุลเงินที่ทะลุแนวต้านหรือต่ำกว่าแนวรับ ซึ่งมักส่งสัญญาณถึงปริมาณและความผันผวนที่เพิ่มขึ้น การซื้อหลังจากทะลุแนวต้านหรือขายหลังจากราคาตกลงต่ำกว่าแนวรับสามารถจับการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างมีนัยสำคัญ

กลยุทธ์นี้ใช้ได้ผลดีที่สุดในแนวโน้มตลาดที่แข็งแกร่ง และสามารถระบุได้จากช่วงราคาที่แคบหรือการรวมตัวกันบนแผนภูมิ ในขณะที่การซื้อขายแบบฝ่าแนวต้านสามารถเพิ่มผลกำไรและลดความเสี่ยงได้ แต่การฝ่าแนวต้านแบบหลอกนั้นมักเกิดขึ้น การใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและตัวบ่งชี้มีความจำเป็นในการระบุจุดเข้าและจุดออกที่ถูกต้อง

กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Breakout กลยุทธ์ Breakout trading

การเทรด Forex สวิงคืออะไร?

การเทรดแบบสวิง Forex หมายถึงรูปแบบการเทรดที่มุ่งหวังที่จะจับการเคลื่อนไหวของราคาครั้งใหญ่ในตลาด Forex ในช่วงเวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์ ซึ่งแตกต่างจากการเทรดแบบเดย์เทรดที่ปิดสถานะภายในวันเดียวกัน ผู้เทรดมองหาโอกาสในการเทรดในช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวสำคัญ ซึ่งช่วยให้ผู้เทรดแบบสวิงสามารถใช้ประโยชน์จากโมเมนตัมได้ Swing trading อาจผสมผสานการวิเคราะห์ทั้งทางเทคนิคและพื้นฐานเพื่อค้นหาจุดเข้าในกลยุทธ์การติดตามแนวโน้มและการสวนทางแนวโน้ม

เครื่องมือทั่วไปที่ใช้ได้แก่ เส้นแนวโน้ม ระดับแนวรับและแนวต้าน รูปแบบแผนภูมิ ตัวบ่งชี้ และออสซิลเลเตอร์

  • ข้อดี
  • ข้อเสีย
  • ประสิทธิภาพด้านเวลา ไม่เหมือนการซื้อขายรายวัน การซื้อขายแบบสวิงไม่จำเป็นต้องติดตามแผนภูมิอย่างต่อเนื่อง จึงเหมาะสำหรับผู้ซื้อขายที่มีเวลาจำกัด

  • การเคลื่อนไหวของราคาที่มากขึ้น Swing trading มีเป้าหมายที่การแกว่งตัวของราคาอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งให้ศักยภาพในการทำกำไรที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับการเทรดในระยะสั้น

  • ความยืดหยุ่นในกลยุทธ์ เทรดเดอร์แบบสวิงสามารถใช้ประโยชน์จากทั้งตลาดที่มีแนวโน้มและตลาดที่เคลื่อนไหวในกรอบ ทำให้มีความยืดหยุ่น

  • ความเสี่ยงในช่วงข้ามคืน สถานะที่ถือไว้ข้ามคืนอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในตลาดที่ไม่คาดคิด เช่น การประกาศข่าวหรือเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์

  • ต้องมีความอดทน Swing trading ต้องถือตำแหน่งเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่มองหาผลลัพธ์ทันที

  • การวิเคราะห์ที่ซับซ้อน ผู้ซื้อขายจำเป็นต้องมีความชำนาญในการวิเคราะห์ทั้งทางเทคนิคและพื้นฐานเพื่อระบุการตั้งค่าที่ทำกำไรได้

จะเลือกกลยุทธ์การซื้อขายแบบสวิงของคุณอย่างไร?

การเลือกกลยุทธ์การซื้อขายแบบสวิงที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จของเทรดเดอร์ทุกคน ต่อไปนี้คือประเด็นสำคัญบางประการที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้พิจารณาเมื่อเลือกกลยุทธ์การซื้อขายแบบสวิง:

  • ระบุช่วงของตลาดก่อนจะเลือกกลยุทธ์ กลยุทธ์ต่างๆ จะได้ผลดีกว่าในสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน ใช้แนวทางการติดตามแนวโน้ม เช่น moving average เคลื่อนที่เมื่อตลาดมีแนวโน้ม แต่เปลี่ยนไปใช้การซื้อขายแนวรับและแนวต้านเมื่อตลาดติดอยู่ในช่วงราคา

  • ใช้กลยุทธ์ให้ตรงกับกรอบเวลาการซื้อขายของคุณ เลือกกลยุทธ์ตามกรอบเวลาการซื้อขายที่คุณต้องการ สำหรับการเทรดระยะยาว แผนภูมิรายวันและเครื่องมือต่างๆ เช่น Fibonacci retracements จะใช้ได้ผลดี หากคุณต้องการเทรดระยะสั้น ให้ใช้แผนภูมิ 4 ชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมงพร้อมการตั้งค่าการทะลุและทดสอบซ้ำ

  • นำความผันผวนมาพิจารณาในการตัดสินใจของคุณ พิจารณา ความผันผวนของตลาดเมื่อตัดสินใจเลือกแนวทาง ใช้เครื่องมือเช่น ATR เพื่อดูว่าตลาดมีความผันผวนมากเพียงใด ทำตามแนวโน้มในกลยุทธ์ความผันผวนสูงและกลยุทธ์การกลับตัวเมื่อสถานการณ์สงบลง

  • ทดสอบกลยุทธ์ของคุณกับเครื่องมือต่างๆ กลยุทธ์หนึ่งอาจใช้ได้ผลดีกับคู่สกุลเงินหนึ่ง แต่ใช้ไม่ได้ผลกับอีกคู่สกุลเงินหนึ่ง ทดสอบกลยุทธ์ของคุณกับเครื่องมือต่างๆ ในโหมดสาธิตเพื่อดูว่ามันทำงานได้อย่างไร และปรับเปลี่ยนหากจำเป็น

  • ประเมินระดับการยอมรับความเสี่ยงและขนาดเงินทุนของคุณ กลยุทธ์บางอย่างต้องใช้เงินทุนมากขึ้นหรือมีความเสี่ยงมากขึ้น เช่น การซื้อขายแบบพีระมิด หากคุณมีบัญชีที่เล็กกว่า ให้ยึดตามแผนที่กำหนดจุดตัดขาดทุนให้แคบลงและกำหนดเป้าหมายกำไรที่ชัดเจนเพื่อให้ความเสี่ยงของคุณอยู่ในระดับต่ำ

กลยุทธ์การเทรดแบบสวิงที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นคืออะไร?

สำหรับผู้เริ่มต้น ขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยกลยุทธ์การซื้อขายแบบสวิงที่เข้าใจและนำไปใช้ได้ง่าย ต่อไปนี้คือตัวอย่างกลยุทธ์การซื้อขายแบบสวิงบางส่วนที่อาจเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น:

  • กลยุทธ์ Moving Average Crossover กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองค่าในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปคือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันและ 200 วัน เมื่อ moving average 50 วันตัดผ่านเหนือ moving average 200 วัน ถือเป็นสัญญาณขาขึ้น และเมื่อตัดผ่านด้านล่าง ถือเป็นสัญญาณขาลง กลยุทธ์นี้เข้าใจง่ายและสามารถช่วยให้ผู้เริ่มต้นระบุแนวโน้มและจุดเข้าและออกที่เป็นไปได้

  • กลยุทธ์แนวรับและแนวต้าน กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญบนแผนภูมิและใช้ระดับเหล่านี้ในการตัดสินใจซื้อขาย ผู้ซื้อขายอาจมองหาหุ้นหรือคู่สกุลเงินที่จะเด้งออกจากระดับแนวรับและเข้าสู่สถานะซื้อ หรือขายหุ้นหรือคู่สกุลเงินเมื่อถึงระดับแนวต้าน กลยุทธ์นี้สามารถช่วยให้ผู้เริ่มต้นเข้าใจรูปแบบแผนภูมิที่สำคัญและจิตวิทยาของตลาดได้

จะทำการซื้อขายแบบสวิงใน Forex ได้อย่างไร?

Swing trading ใน Forex ถือเป็นกลยุทธ์การเทรดที่มีประสิทธิภาพได้ หากคุณรู้วิธีการทำอย่างถูกต้อง ผู้เชี่ยวชาญได้สรุปขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อช่วยแนะนำคุณในการเทรดแบบสวิง:

  • เลือกกลยุทธ์ของคุณ ขั้นตอนแรกในการเทรดแบบสวิงคือการเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะกับสไตล์การเทรดและความสามารถในการรับความเสี่ยงของคุณ กลยุทธ์ยอดนิยม ได้แก่ การเทรดแบบช่วง Fibonacci retracement และ MACD trading strategy

  • เลือกคู่สกุลเงิน การเลือกคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องและความผันผวนสูงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับรูปแบบการซื้อขายนี้ คู่สกุล Major เช่น EUR/USD, USD/JPY และ GBP/USD ถือเป็นตัวเลือกที่ดี

  • ทดสอบกลยุทธ์ของคุณ ก่อนที่จะนำกลยุทธ์ของคุณไปใช้ในการซื้อขายจริง ให้ทดสอบในบัญชีทดลอง วิธีนี้จะช่วยให้คุณเห็นว่ากลยุทธ์นั้นมีประสิทธิภาพแค่ไหน และทำงานอย่างไรในสภาวะตลาดแบบเรียลไทม์

  • ติดตามแนวโน้มระยะยาว เป็นสิ่งสำคัญมากในการจัดแนวการซื้อขายของคุณให้สอดคล้องกับแนวโน้มระยะยาวของคู่สกุลเงินที่คุณกำลังซื้อขาย ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าการซื้อขายของคุณมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงขึ้น

  • ให้ความสำคัญกับสวอป เมื่อถือครองการซื้อขายข้ามคืน อย่าลืมให้ความสำคัญกับสวอปด้วย นี่คือความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงินทั้งสองในคู่สกุลเงิน และอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลกำไรจากการซื้อขายของคุณ

คู่สกุลเงินใดดีที่สุดสำหรับนักเทรดแบบสวิง?

คู่สกุลเงินที่ดีที่สุดมักมีสภาพคล่องสูง ความผันผวน แนวโน้มที่ชัดเจน และปัจจัยพื้นฐานที่สามารถกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวตามทิศทางในช่วงหลายวันหรือหลายสัปดาห์ ผู้ซื้อขายพยายามหาโอกาสในการทำกำไรจากการแกว่งตัวเหล่านี้โดยใช้กลยุทธ์การซื้อขายแบบมีช่วงราคา การทะลุกรอบ และรูปแบบกราฟ

ต่อไปนี้เป็น คู่สกุลเงินที่ดีที่สุด บางส่วนสำหรับผู้ซื้อขายแบบสวิง Forex:

  • EUR/USD คู่สกุลเงินยูโร/ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องและผันผวนมากที่สุดในตลาด Forex คู่สกุลเงินนี้มีแนวโน้มดีและมีการแกว่งตัวที่เชื่อถือได้ ทำให้เป็นคู่สกุลเงินที่นักเทรดแบบสวิงนิยม

  • GBP/USD คู่เงินปอนด์สเตอร์ลิง/ดอลลาร์ของอังกฤษมีแนวโน้มที่ชัดเจนและมีความผันผวนสูง ข่าวสารและข้อมูลจากสหราชอาณาจักรสามารถกระตุ้นโอกาสในการซื้อขายที่มั่นคงได้

  • USD/JPY คู่เงินดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่นมีแนวโน้มค่อนข้างคงที่ในระยะยาว นักเทรดแบบสวิงเทรดมองว่าจะได้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวที่สูงขึ้นหรือต่ำลงของคู่เงินนี้

  • AUD/USD คู่เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย/ดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะอ่อนไหวต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์และการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยอย่างมาก ผู้ซื้อขายแบบสวิงสามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวทั้งทางพื้นฐานและทางเทคนิคได้

  • USD/CAD ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์แคนาดาได้รับอิทธิพลอย่างมากจากราคาน้ำมันดิบและอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน นักเทรดแบบสวิงควรจับตาดูความเคลื่อนไหวเหล่านี้ในคู่เงินนี้

  • EUR/GBP. อัตราแลกเปลี่ยนของยูโร/ปอนด์อังกฤษอาจมีแนวโน้มสำคัญหลายสัปดาห์ ผู้ซื้อขายแบบสวิงจะมองหาการซื้อขายในทิศทางของโมเมนตัมด้วยคู่เงินนี้

ข้อผิดพลาดทั่วไปในการเทรดแบบสวิงและวิธีหลีกเลี่ยง

ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง:

  • การละเลยการจัดการความเสี่ยง การ ไม่ใช้คำสั่งตัดขาดทุนอาจนำไปสู่การสูญเสียครั้งใหญ่

  • การซื้อขาย มากเกินไป การเปิดสถานะหลายสถานะในเวลาเดียวกันจะเพิ่มความเสี่ยงให้มากขึ้น

  • การไม่สนใจข่าวสารในตลาด เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อตลาด Forex และขัดขวางการตั้งค่าทางเทคนิค

วิธีหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด:

  • ใช้สมุดบันทึกการซื้อขายเพื่อติดตามการตัดสินใจและปรับแต่งกลยุทธ์ของคุณ

  • ควรทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลังเสมอ ก่อนที่จะนำไปใช้ในการซื้อขายจริง

  • มีวินัยและปฏิบัติตามแผนการซื้อขายของคุณ

การพัฒนาแผนการซื้อขายสวิงแบบเฉพาะบุคคล

  • กำหนดเป้าหมายของคุณ ให้ชัดเจนว่าคุณกำลังซื้อขายเพื่อหารายได้เสริม การเติบโตของเงินทุน หรือเป้าหมายอื่น

  • กำหนดระดับการยอมรับความเสี่ยง ตัดสินใจว่าคุณเต็มใจที่จะเสี่ยงเงินทุนของคุณเป็นเปอร์เซ็นต์เท่าใดต่อการซื้อขายแต่ละครั้ง

  • เลือกเครื่องมือของคุณ เลือกตัวบ่งชี้และเครื่องมือสร้างแผนภูมิที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของคุณ

  • กำหนดตารางการตรวจสอบเป็นประจำ ประเมินประสิทธิภาพการซื้อขายของคุณเป็นระยะเพื่อปรับปรุงแนวทางของคุณ

สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือการเลือกเฉพาะโบรกเกอร์ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะของนักเทรดแบบสวิงเท่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีทรัพยากรเพียงพอในการดำเนินการซื้อขายอย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มผลกำไรให้สูงสุด เราได้นำเสนอ โบรกเกอร์ ดังกล่าวบางส่วนในตารางด้านล่าง:

โบรกเกอร์ซื้อขายสวิงที่ดีที่สุด
การซื้อขายแบบสวิง การสาธิต เงินฝากขั้นต่ำ, $ เลเวอเรจสูงสุด สเปรดขั้นต่ำ EUR/USD, pips สเปรดสูงสุด EUR/USD, pips ค่าคอมมิชชั่น ECN, $ ต่อล็อต การคุ้มครองนักลงทุน ระดับการควบคุม เปิดบัญชี

Pepperstone

มี มี ไม่มี 1:500 0,5 1,5 3 £85,000 €20,000 €100,000 (DE) Tier-1 เปิดบัญชี
เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

OANDA

มี มี ไม่มี 1:200 0,1 0,5 3,5 £85,000 SGD 75,000 $500,000 Tier-1 เปิดบัญชี
เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

IG Markets

มี มี 1 1:200 0,6 1,2 2,3 £85,000 €100,000 SGD 75,000 Tier-1 อ่านรีวิว

Phillip Securities

มี ไม่มี 1000 1:1 0,3 0,6 ไม่มี ไม่มี Tier-2 อ่านรีวิว

XM Group

มี มี 5 1:1000 0,7 1,2 3,5 £85,000 €20,000 Tier-1 เปิดบัญชี
เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

ทำความเข้าใจ Pivot points และการตั้งค่าตามวัฏจักรเพื่อความสำเร็จในการเทรด Forex กซ์แบบสวิง

Anastasiia Chabaniuk ผู้เขียน, ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินที่ Traders Union

Swing trading ใน Forex เป็นเรื่องของการจับจังหวะและใช้เครื่องมือที่ชาญฉลาด กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างหนึ่งคือการใช้ Pivot points ร่วมกับตัวบ่งชี้โมเมนตัม เช่น RSI ทำเครื่องหมายจุดพลิกผันเป็นโซนแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ และดำเนินการเฉพาะเมื่อ RSI สนับสนุนการเคลื่อนไหว ตัวอย่างเช่น หากราคาแตะจุดรองรับจุดพลิกผันและ RSI ข้ามเหนือ 30 แสดงว่าสัญญาณที่แข็งแกร่งในการซื้อ วิธีนี้กรองสัญญาณที่ไม่ดีออกโดยตรวจสอบให้แน่ใจว่าราคาและโมเมนตัมตรงกัน ใช้แผนภูมิ 4 ชั่วโมงเพื่อค้นหาระดับพลิกผัน แต่ให้ปรับแต่งรายการเข้าของคุณในแผนภูมิ 1 ชั่วโมง

แนวทางที่มั่นคงอีกประการหนึ่งคือการมุ่งเน้นไปที่คู่สกุลเงินที่มีรูปแบบที่คาดเดาได้ เช่น EUR / USD ในช่วงที่ลอนดอน-นิวยอร์กทับซ้อนกัน คู่สกุลเงินเหล่านี้เคลื่อนไหวสม่ำเสมอมากขึ้นในช่วงเวลาที่ทับซ้อนกัน ตรวจสอบความผันผวนด้วย ATR และปรับขนาดตำแหน่งของคุณให้เหมาะสม มองหารูปแบบการทะลุและทดสอบซ้ำที่ระดับทางจิตวิทยา เช่น 1.2000 หรือ 1.3000 ระดับเหล่านี้มักจะดึงการเคลื่อนไหวของราคาให้กลับมา ทำให้คุณมีโอกาสในการซื้อขายที่มั่นคงเมื่อราคาพลิกกลับมาแตะระดับการทะลุ กลยุทธ์นี้จะช่วยให้คุณซื้อขายตามจังหวะของตลาด

บทสรุป

ความสำเร็จ Swing trading เกิดขึ้นจากการใช้กลยุทธ์ที่เหมาะกับคุณและปรับให้เข้ากับการเคลื่อนไหวของตลาด ใช้เครื่องมือเช่นระดับ Fibonacci, MACD และการวิเคราะห์การทะลุแนวรับเพื่อสร้างแผนที่ใช้ได้ทั้งในตลาดที่เป็นเทรนด์และตลาดที่เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ปรับเปลี่ยนแผนของคุณตามประสิทธิภาพ และปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โปรดจำไว้ว่าเป้าหมายไม่ใช่การสมบูรณ์แบบ แต่คือการเทรดอย่างสม่ำเสมอและปรับตัวได้

คำถามที่พบบ่อย

กลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับการเทรด Forex แบบสวิงคืออะไร?

กลยุทธ์ที่เหมาะสมจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรูปแบบการซื้อขายและความสามารถในการรับความเสี่ยงของคุณ การติดตามแนวโน้ม การซื้อขายแบบ Breakout และการซื้อขายแบบ Range มักมีประสิทธิผล

การเทรดแบบสวิงใน Forex มีกำไรหรือไม่?

ใช่แล้ว การซื้อขายแบบสวิงสามารถทำกำไรได้ด้วยแผนที่มั่นคงและการจัดการความเสี่ยงอย่างมีวินัย อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการเรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่อง

คู่สกุลเงินใดดีที่สุดสำหรับการเทรดแบบสวิง?

คู่ Major เช่น EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD และ USD/CHF ได้รับความนิยมเนื่องจากมีสภาพคล่องและความผันผวนสูง

การเทรด Forex แบบสวิงสามารถทำให้คุณรวยได้หรือไม่?

แม้จะมีศักยภาพ แต่ความมั่งคั่งจากการเทรดแบบสวิงเทรดต้องอาศัยความอดทน วินัย และความพยายามอย่างต่อเนื่อง มันไม่ใช่หนทางสู่ความร่ำรวยอย่างรวดเร็ว

ทีมงานที่จัดทำบทความนี้

Oleg Tkachenko
ผู้เขียนและผู้เชี่ยวชาญของ Traders Union

Oleg Tkachenko เป็นนักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจและผู้จัดการความเสี่ยงซึ่งมีประสบการณ์มากกว่า 14 ปีในการทำงานกับธนาคาร บริษัทการลงทุน และแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ที่มีความสำคัญในระบบ เขาเป็นนักวิเคราะห์ของ Traders Union ตั้งแต่ปี 2018 ความเชี่ยวชาญหลักของเขาคือการวิเคราะห์และคาดการณ์แนวโน้มราคาในตลาด Forex หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงินดิจิทัล รวมถึงการพัฒนากลยุทธ์การซื้อขายและระบบการจัดการความเสี่ยงแต่ละบุคคล นอกจากนี้ เขายังวิเคราะห์ตลาดการลงทุนที่ไม่เป็นมาตรฐานและศึกษาเกี่ยวกับจิตวิทยาการซื้อขายอีกด้วย

นอกจากนี้ โอเล็กยังได้เป็นสมาชิกของสหภาพนักข่าวแห่งชาติยูเครน (บัตรสมาชิกเลขที่ 4575, หนังสือรับรองระหว่างประเทศ UKR4494)

อภิธานศัพท์สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
ความผันผวน

ความผันผวนหมายถึงระดับของการเปลี่ยนแปลงหรือความผันผวนของราคาหรือมูลค่าของสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น พันธบัตร หรือสกุลเงินดิจิทัล ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ความผันผวนที่สูงขึ้นบ่งชี้ว่าราคาของสินทรัพย์กำลังเผชิญกับการแกว่งของราคาที่มีนัยสำคัญและรวดเร็วมากขึ้น ในขณะที่ความผันผวนที่ลดลงบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่ค่อนข้างคงที่และค่อยเป็นค่อยไป

การซื้อขายรายวัน

การซื้อขายรายวันเกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสินทรัพย์ทางการเงินภายในวันซื้อขายเดียวกัน โดยมีเป้าหมายในการทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น และโดยปกติแล้วสถานะจะไม่ถูกถือข้ามคืน

แนวโน้มขาขึ้น

Uptrend คือสภาวะตลาดที่โดยทั่วไปแล้วราคาจะสูงขึ้น แนวโน้มขาขึ้นสามารถระบุได้โดยใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เส้นแนวโน้ม และระดับแนวรับและแนวต้าน

นักลงทุน

นักลงทุนคือบุคคลที่นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์โดยคาดหวังว่ามูลค่าของสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้นในอนาคต สินทรัพย์อาจเป็นอะไรก็ได้ รวมถึงพันธบัตร หุ้นกู้ กองทุนรวม หุ้น ทองคำ เงิน กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) และอสังหาริมทรัพย์

การซื้อขายสวิง

Swing Trading เป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้องกับการถือครองตำแหน่งในสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้นหรือฟอเร็กซ์ เป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำกำไรจากการแกว่งของราคาในระยะสั้นถึงระยะกลางหรือ "การแกว่ง" ในตลาด โดยทั่วไปแล้วผู้ค้าสวิงจะใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานเพื่อระบุจุดเข้าและออกที่เป็นไปได้