15 โบรกเกอร์ Forex ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ปี 2024
โบรกเกอร์ Forex อันดับสูงสุดของโลก: (B คือ พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
-
IC Markets — ปริมาณการเทรดเฉลี่ย 22.68B ต่อวัน
-
Forex.com — ปริมาณการเทรดเฉลี่ย 18.6B ต่อวัน
-
XM Group — ปริมาณการเทรดเฉลี่ย 16.08B ต่อวัน
-
Saxo Bank — ปริมาณการเทรดเฉลี่ย 14.76B ต่อวัน
-
HF Markets — ปริมาณการเทรดเฉลี่ย 13.8B ต่อวัน
การเทรด Forex เป็นตลาดการเงินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีปริมาณการซื้อขายต่อวันมากกว่า $6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในตลาดที่มีการแข่งขันและความผันผวนมากที่สุดในโลก มีผู้มีส่วนร่วมในตลาดรายใหญ่ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกลาง ธนาคารพาณิชย์ นักลงทุนรายย่อย และเฮดจ์ฟันด์
คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโบรกเกอร์ Forex ขนาดใหญ่ที่สุดเหล่านี้และอื่น ๆ ได้จากบทความนี้
โดยทั่วไป นักลงทุนส่วนใหญ่มักเทรดผ่าน โบรกเกอร์ Forex ออนไลน์ ที่ให้บริการแพลตฟอร์มและการเข้าถึงตลาดของธนาคารระหว่างประเทศ โบรกเกอร์ Forex มีจำนวนมากในโลก จากการประเมินคาดว่าอาจมีถึง 1,000 โบรกเกอร์ แต่ไม่ใช่โบรกเกอร์ทุกรายจะเท่าเทียมกัน บางโบรกเกอร์มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาดูรายละเอียดโบรกเกอร์ Forex ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 15 อันดับแรกของโลกตามปริมาณการเทรด
คำเตือน:
การเทรดผลิตภัณฑ์ที่ใช้เลเวอเรจมีความเสี่ยงในระดับสูงเกี่ยวข้อง เช่น Forex/CFDs โดย 65-82% ของบัญชีนักลงทุนรายย่อยสูญเสียเงินเมื่อทำการเทรด CFDs คุณควรพิจารณาว่าคุณเข้าใจกลไกการทำงานของ CFDs และสามารถยอมรับความเสี่ยงระดับสูงที่จะสูญเสียเงินได้หรือไม่
ทำไมปริมาณการเทรดจึงมีความสำคัญ?
ปริมาณการเทรด Forex แสดงให้เห็นว่ามีการซื้อขายค่าเงินมากน้อยแค่ไหนในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เป็นหนึ่งในแนวโน้มการเทรดที่สำคัญที่สุด ซึ่งอาจสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของผู้เล่นในตลาด สภาพคล่องของตราสารที่เทรด และยังใช้เป็นดัชนีชี้นำได้ด้วย
สำหรับโบรกเกอร์แล้ว ปริมาณการเทรดต่อวันมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะมันอาจมีผลต่อจุดสำคัญที่สุดของโบรกเกอร์ มันคือเครื่องมือทางการตลาดที่ช่วยดึงดูดลูกค้า และที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือ การรักษาลูกค้าให้อยู่กับโบรกเกอร์ เมื่อลูกค้าพึงพอใจกับสภาพคล่อง ค่าสเปรด และค่าธรรมเนียม ก็จะมีโอกาสน้อยลงที่จะย้ายไปเทรดกับโบรกเกอร์อื่น
แล้วข้อดีของปริมาณการเทรดสูงมีอะไรบ้าง?
-
สภาพคล่องที่ดีกว่า นี่คือปัจจัยที่สำคัญมากที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อโมเดลธุรกิจของโบรกเกอร์โดยตรง สภาพคล่องแสดงถึงจำนวนผู้ซื้อและผู้ขายในตลาด เมื่อมีผู้ร่วมตลาดมากขึ้น การดำเนินคำสั่งเทรดในราคาที่ต้องการจะง่ายยิ่งขึ้น
-
ค่าธรรมเนียมลดลง เมื่อมีปริมาณการเทรดที่สูงในแต่ละวัน โบรกเกอร์จะสามารถหักค่าธรรมเนียมที่ต่ำลง เพราะพวกเขาจะทำกำไรได้มากขึ้นจากปริมาณการเทรด
-
Slippage น้อยลง Slippage คือส่วนต่างระหว่างราคาที่ต้องการในคำสั่งเทรดและราคาจริงที่มีการออกคำสั่ง ในช่วงที่สภาพคล่องสูงจะมีโอกาสเกิด Slippage น้อยลง เพราะมีผู้ร่วมตลาดจำนวนมากกว่าที่ต้องการจะรับคำสั่งอีกด้านในทุกธุรกรรมการเทรด
-
ช่องว่างน้อยลง ช่องว่างคือเมื่อราคาของคู่เงินขยับจากระดับหนึ่งไปยังอีกระดับหนึ่ง โดยไม่มีการเทรดใด ๆ เกิดขึ้นในช่องว่างราคาดังกล่าว ช่องว่างราคาอาจเกิดขึ้นช่วงข้ามคืน (เมื่อตลาดปิดทำการ) หรือช่วงระหว่างวัน ในตลาดที่มีปริมาณการเทรดสูง จะมีช่องว่างเกิดขึ้นน้อยลง ด้วยเหตุนี้เอง ปริมาณการเทรดที่สูงจึงมักจะมีความเสถียรมากกว่า
หากคุณเป็นนักเทรด Forex ทางที่ดีควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีปริมาณการเทรดต่อวันสูงสุด ผลประโยชน์ที่คุณจะได้รับจะมีผลต่อความสำเร็จในการเทรดของคุณโดยตรง
รายชื่อโบรกเกอร์ Forex ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
เราได้รวบรวมรายชื่อโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ 15 อันดันแรกที่มีปริมาณการเทรดมากที่สุดของโลก รายชื่อนี้อิงจากปริมาณการซื้อขายต่อวันในปี 2023
โบรกเกอร์ Forex | ปริมาณการเทรดต่อวัน (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) | หน่วยงานกำกับดูแล | |
---|---|---|---|
1 |
22.68 |
ASIC, CySEC, FSA, SCB |
|
2 |
Forex.com |
18.6 |
NFA, CFTC |
3 |
16.08 |
FSC |
|
4 |
Saxo Bank |
14.76 |
Danish FSA |
5 |
HF Markets |
13.8 |
FCA, Dubai FSA, FSCA (SouthAfrica), FSA (Seychelles), CMA (Kenya) |
6 |
12.84 |
Monetary Authority of Singapore, International Enterprise Singapore, IIROC, FCA, ASIC |
|
7 |
AvaTrade |
9.36 |
Central Bank of Ireland, ASIC, B.V.I Financial Services Commission, FSA, FSCA, Abu Dhabi Global Markets |
8 |
IG Markets |
8.16 |
FCA, ASIC, JFSA, FMA, MAS |
9 |
Pepperstone |
8.04 |
FCA, ASIC, DFSA |
10 |
FxPro |
7.8 |
FSCA, CySEC, FCA, SCB |
11 |
FXCM |
7.11 |
ASIC, FSCA, FCA |
12 |
XTB |
6.56 |
FCA |
13 |
Axi |
5.69 |
ASIC, Dubai FSA, FCA |
14 |
FXOpen |
5.13 |
FCA |
15 |
4.87 |
FSA (Seychelles), FCA, CySEC, FSCA, Labuan Financial Services Authority |
ข้อมูลด้านบนนี้เป็นข้อมูลจากโบรกเกอร์เอง TU ไม่รับผิดชอบต่อความคลาดเคลื่อนใด ๆ ของข้อมูลข้างต้น ตารางนี้จัดเรียงตามปริมาณการเทรด (จากมากไปน้อย)
ประเทศไหนเหมาะกับการเทรด Forex มากที่สุด?
ไม่มีประเทศ “ที่ดีที่สุดใน” การเทรดในตลาดฟอเร็กซ์ ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว การกำกับดูแล และเป้าหมายการเทรด อย่างไรก็ดี มีเขตพื้นที่ทางกฎหมายบางแห่งที่อาจให้สภาพแวดล้อมการเทรดในตลาดเงินตราต่างประเทศที่สะดวกสบายและปลอดภัยมากที่สุด
รายชื่อประเทศที่ดีที่สุดสำหรับการเทรด Forex ได้แก่
-
สหรัฐอเมริกา – ตลาด Forex ได้รับการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดในสหรัฐฯ มีโบรกเกอร์ Forex ขนาดใหญ่ที่สุดหลายแห่งดำเนินธุรกิจที่นี่ กรอบการกำกับดูแลช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับการคุ้มครองและความโปร่งใสในระดับสูงสุด
-
สหราชอาณาจักร เป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางการเทรด Forex ขนาดใหญ่ หน่วยงานการกำกับดูแลทางการเงิน (FCA) คือหน่วยงานของสหราชอาณาจักรที่สอดส่องดูแลการปฏิบัติงานขององค์กรโบรกเกอร์และหลีกเลี่ยงการละเมิดกฎหมาย
-
สวิตเซอร์แลนด์ คือประเทศที่มีชื่อเสียงเรื่องเสถียรภาพทางการเงินและการกำกับดูแลที่ชัดเจน หน่วยงานการกำกับดูแลตลาดการเงินสวิส (FINMA) เป็นหน่วยงานที่ควบคุมการดำเนินงานของโบรกเกอร์ในสวิตเซอร์แลนด์
-
ออสเตรเลีย – เป็นประเทศที่มีชุมชนนักเทรดที่พัฒนาแล้ว ซึ่งนักลงทุนสามารถเพลิดเพลินไปกับการคุ้มครองที่น่าเชื่อถือ คณะกรรมการด้านการลงทุนและหลักทรัพย์ออสเตรเลีย (ASIC) เป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลกิจกรรมของโบรกเกอร์
-
สิงคโปร์ คือ ศูนย์กลางการเงินที่สำคัญของเอเชีย ช่วยดึงดูดนักเทรด Forex จากทั่วทุกมุมโลก หน่วยงานทางการเงินของสิงคโปร์ (MAS) ช่วยควบคุมการดำเนินการของบริษัทโบรกเกอร์และรับประกันความปลอดภัยและความสะดวกสบายในตลาด
ผู้เชี่ยวชาญ Traders Union เน้นย้ำว่า ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหน คุณควรเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเคารพนับถือและมีการกำกับดูแลเสมอ ซึ่งควรตอบโจทย์ความต้องการเทรดในการเทรดของคุณ และให้บริการสภาพแวดล้อมการเทรดที่ปลอดภัย ควรทำการศึกษาอย่างรอบคอบ พิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เกี่ยวกับการกำกับดูแล เงื่อนไขการเทรด บริการลูกค้า และชื่อเสียงของโบรกเกอร์ก่อนที่จะทำการตัดสินใจ
โบรกเกอร์ Forex ที่ใหญ่ที่สุดในโลกคืออะไร?
IC Markets คือ โบรกเกอร์ Forex ขนาดใหญ่ที่สุด โดยมีปริมาณการเทรด $10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ปัจจุบัน IC Markets ประกอบกิจการในกว่า 200 ประเทศ และมีลูกค้าเทรดประจำอยู่กว่า 200,000 คนและมีฐานลูกค้าที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บริษัทให้บริการผลิตภัณฑ์ Forex ที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น คู่เงินหลัก คู่รอง และคู่ตลาดเกิดใหม่ สินค้าโภคภัณฑ์ โลหะมีค่า และดัชนีหุ้น อีกทั้งยังมีการให้บริการบัญชีหลากหลายประเภท เช่น Standard, ECN, Swap-Free และ Islamic เนื่องด้วยปริมาณการเทรดในระดับสูง (1.11 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม 2022) ค่าสเปรดต่ำ ค่าธรรมเนียมที่แข่งขันได้ และการดำเนินคำสั่งด้วยความเร็วสูงสุด
เงื่อนไขการเทรดของ IC Markets เป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่ดีที่สุดในวงการ ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pip สำหรับทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง MetaTrader 4, MetaTrader 5 และ cTrader การดำเนินคำสั่งรวดเร็วเป็นอย่างมาก โดยมีค่าเฉลี่ย 0.4 มิลลิวินาทีในการดำเนินคำสั่ง
เงื่อนไขมาร์จิ้นและเลเวอเรจต่ำมากเช่นกัน สำหรับคู่เงินหลักมีมาร์จิ้นอยู่ที่ 0.5% และเลเวอเรจคือ 500:1 เลเวอเรจช่วยให้นักเทรดเพิ่มผลตอบแทนได้สูงสุด แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
คุณยังสามารถเข้าถึงคู่โลหะภัณฑ์และคู่เงินกว่า 60 ชนิดบนทุกแพลตฟอร์มที่ทำงานกับ IC Markets
ประวัติ IC Markets
IC Markets ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 โดยทีมงานนักการเงิน นักเทรด และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นโดยมีภารกิจในการให้ค่าสเปรดที่ต่ำลง เทคโนโลยีการดำเนินคำสั่งที่เหนือชั้นกว่า และสภาพคล่องที่แข่งขันได้ยาก
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา IC Markets ยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และบริการของตนเอง ในปี 2015 พวกเขากลายเป็นโบรกเกอร์ออสเตรเลียแห่งแรกที่นำเสนอแพลตฟอร์ม cTrader ในปี 2017 พวกเขาเริ่มให้บริการบัญชีเทรด ECN Forex ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดโดยมเงินฝากขั้นต่ำ $200
ประเภทบัญชีและค่าธรรมเนียม IC Markets
IC Markets ให้บริการบัญชีสามประเภทด้วยกัน ได้แก่ Standard, Raw Spread และ cTrader ประเภทบัญชีที่คุณเลือกจะเป็นตัวกำหนดค่าธรรมเนียมที่คุณต้องจ่าย
บัญชี Standard: คือประเภทบัญชีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและกำหนดเงินฝากขั้นต่ำ $200 ค่าสเปรดเริ่มตั้งแต่ 0.6 pips
บัญชี Raw Spread: บัญชีประเภทนี้มีเงินฝากขั้นต่ำ $200 ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips แต่มีค่าคอมมิชชั่น $3.5 ต่อล็อต
บัญชี cTrader: บัญชีประเภทนี้มีเงินฝากขั้นต่ำ $200 ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips แต่มีค่าคอมมิชชั่น $3 ต่อล็อต
หลักเกณฑ์ | Standard | Raw Spread | บัญชีฟรีค่าสวอป |
---|---|---|---|
เหมาะสำหรับ |
Day Traders & Scalpers |
เทรดด้วย EA & Scalpers |
นักเทรดแบบวิเคราะห์สถานการณ์ |
การเทรดด้วยคลิกครั้งเดียว |
มี |
มี |
มี |
เงินฝากขั้นต่ำ |
$200 |
$200 |
$200 |
สกุลเงินฐาน |
USD, AUD, EUR, GBP, SGD, NZD, JPY, CHF, HKD, CAD |
USD, AUD, EUR, GBP, SGD, NZD, JPY, CHF, HKD, CAD |
USD, AUD, EUR, GBP, SGD, NZD, JPY, CHF, HKD, CAD |
แพลตฟอร์มเทรด |
cTrader |
MetaTrader |
MetaTrader |
เลเวอเรจสูงสุด |
1:500 |
1:500 |
1:500 |
ค่าสเปรดเฉลี่ยของ EUR/USD |
0.1 pips |
0.1 pips |
0.1 pips |
ค่าธรรมเนียม Forex (ถ้ามี) |
$3.0 |
$3.5 |
$0.0 |
ค่าสวอป Forex |
มี |
มี |
ไม่มี |
โบรกเกอร์ Forex ชั้นนำของโลกอื่น ๆ ตามปริมาณการเทรด
Forex.com
ด้วยปริมาณการเทรดต่อวันกว่า $18.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ Forex.com จึงเป็นโบรกเกอร์ Forex ขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สองของโลก โบรกเกอร์นี้เริ่มกิจการในปี 2001 และปัจจุบันให้บริการในกว่า 140 ประเทศทั่วโลก
Forex.com ให้บริการหลากหลายสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น คู่เงิน CFDs สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนีหุ้น อีกทั้งยังมีบัญชีหลากหลายประเภท เช่น บัญชี Standard, บัญชี Commission และบัญชีประเภทเข้าถึงตลาดได้โดยตรง
บัญชี Standard เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการแนวทางการเทรดแบบดั้งเดิมและเรียบง่ายในการเทรด Forex ค่าสเปรดเริ่มตั้งแต่ 1.0 ส่วนบัญชี Commission เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์มากกว่าที่อยากได้ค่าสเปรดต่ำลงและมีค่าคอมมิชชั่นแบบคงที่ ค่าสเปรดของบัญชีนี้เริ่มที่ 0.2 ส่วนบัญชีแบบเข้าถึงตลาดโดยตรงสำหรับนักเทรดที่เทรดในปริมาณสูงมาก ผู้ที่ต้องการการควบคุมอย่างเต็มที่และความยืดหยุ่น โดยค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0.1
XM GROUP
XM คือโบรกเกอร์ Forex ขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของโลก ซึ่งมีปริมาณการเทรดเฉลี่ยต่อวันกว่า $16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ XM ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 และปัจจุบันให้บริการในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก
XM นำเสนอคู่เงินที่หลากหลาย รวมถึง CFDs โลหะภัณฑ์ สินทรัพย์กลุ่มพลังงาน ดัชนีตลาดทุน และสกุลเงินคริปโต อีกทั้งยังมีบัญชีประเภทต่าง ๆ ให้บริการ เช่น บัญชี Micro, Standard, XM Ultra-low และบัญชี Shares
เงื่อนไขการเทรดยอดเยี่ยมเช่นกัน โดยให้เลเวอเรจสูงสุด 1000:1 และเงื่อนไขการฝากเงินขั้นต่ำที่ไม่สูงมาก ค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0.6 pips
Saxo Bank
Saxo Bank มีปริมาณการเทรดเฉลี่ยคือ $14.6 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน โบรกเกอร์นี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1992 และมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเดนมาร์ก บริษัทฯ ยังได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของเดนมาร์ก และเป็นสมาชิกสมาคมกลุ่มธนาคารของเดนมาร์กด้วย
เมื่อคุณเทรดกับ Saxo Bank คุณจะสามารถเข้าถึงตลาดรอบโลกอย่างทั่วถึง คุณสามารถเทรดสินทรัพย์ได้กว่า 60,000 รายการ อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มอันทรงพลัง รับราคาที่แข่งขันได้จากอุตสาหกรรม และความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
HF Markets
HF Markets คือ โบรกเกอร์ Forex ที่มีปริมาณการเทรดเฉลี่ยอยู่ที่ $13.8 พันล้านดอลลาร์สหรับฯ ต่อวัน HF Markets ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 และมีสำนักงานใหญ่อยู่ในหมู่เกาะมาร์แชล บริษัทนี้ยังได้รับการกำกับดูแลโดยกฎหมายกิจการบริษัทแห่งหมู่เกาะมาร์แชลด้วย
HF Markets ให้บริการบัญชี 5 ประเภท ได้แก่ Micro, Premium, Zero Spread, PAMM และ HFCopy จำนวนเงินฝากขั้นต่ำของบัญชี Micro อยู่ที่ $5 และสำหรับบัญชี Premium คือ $100 คุณสามารถเทรดสินทรัพย์ได้กว่า 150 รายการที่ HF Markets
OANDA
OANDA คือ โบรกเกอร์ Forex ที่มีปริมาณการเทรดเฉลี่ยที่ $12.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน บริษัทเริ่มกิจการในปี 1997 และเป็นหนึ่งในธุรกิจที่เก่าแก่ที่สุดในวงการ OANDA มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในนครนิวยอร์ก และยังมีสำนักงานตั้งอยู่ในโตรอนโต ลอนดอน สิงคโปร์ และโตเกียว
OANDA ใช้โมเดลการให้ราคาสองแบบ คือ แบบค่าสเปรดเท่านั้น และแบบคิดค่าคอมมิชชั่น โมเดลแบบค่าสเปรดเท่านั้นจะมีการคิดค่าคอมมิชชั่นของโบรกเกอร์ในค่าสเปรด ส่วนโมเดลค่าคอมมิชชั่นจะเป็นค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์แบบดั้งเดิมที่หักแยกออกจากค่าสเปรดต่างหาก แต่คุณจะได้ค่าสเปรดที่แคบมากในโมเดลอย่างหลังนี้
OANDA ให้บริการบัญชีสองประเภท ได้แก่ Standard และ Advanced ทั้งสองบัญชีให้คุณเข้าถึงการเทรดคู่เงินกว่า 70 คู่ฟอเร็กซ์ โดยยอดเงินขั้นต่ำสำหรับบัญชีประเภท Standard คือ $0 และขั้นต่ำสำหรับบัญชี Advanced คือ $10,000
AvaTrade
AvaTrade คือโบรกเกอร์ Forex ที่มีปริมาณการเทรดต่อวันอยู่ที่ $9.36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คุณสามารถเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์นี้ได้โดยฝากเงินเพียง $100 เท่านั้น และนอกเหนือจากรายการสินทรัพย์กว่า 60 คู่เงินฟอเร็กซ์ AvaTrade ยังให้คุณสามารถเทรดทองคำ เงิน และคริปโตได้อีกด้วย
แพลตฟอร์มเทรดของ AvaTrade ได้แก่ MetaTrader 4, Webtrader และ AvaTradeGo และยังให้ค่าสเปรดแบบคงที่เริ่มตั้งแต่ 0.6 pips
Pepperstone
Pepperstone คืออีกหนึ่งโบรกเกอร์ Forex ชั้นนำที่มีปริมาณการเทรดเฉลี่ยต่อวันสูงกว่า $8.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไม่มีเงื่อนไขเงินฝากขั้นต่ำในการเปิดบัญชีกับ Pepperstone อีกทั้ง โบรกเกอร์ยังให้โอกาสการเทรดสินทรัพย์กว่า 200 รายการ รวมถึงคู่เงินฟอเร็กซ์มากกว่า 60 คู่
แพลตฟอร์มเทรดของ Pepperstone ได้แก่ MT4, MT5 และ cTrader และค่าสเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips
FxPro
FxPro คือโบรกเกอร์ Forex ที่มีปริมาณการเทรดเฉลี่ยต่อวันที่ $7.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กำหนดเงื่อนไขเงินฝากขั้นต่ำเพียง $100 บริษัทนี้ให้บริการสินทรัพย์ให้เทรดมากกว่า 400 รายการ รวมถึงคู่ฟอเร็กซ์ 70 คู่ และยังมีค่าสเปรดฟอเร็กซ์ที่ต่ำมากที่สุดแห่งหนึ่ง เริ่มตั้งแต่ 0 pips ลูกค้าของ FxPro สามารถเทรดผ่านแพลตฟอร์ม MT4, MT5, cTrader และ Fxtrader
XTB
XTB คือ โบรกเกอร์ Forex ที่มีปริมาณการเทรดเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ $6.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จำนวนเงินฝากขั้นต่ำในการเปิดบัญชีกับ XTB คือ $250 คุณสามารถเทรดคู่ฟอเร็กซ์ได้มากกว่า 50 คู่ รวมถึงสินทรัพย์อื่น ๆ เช่นดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์กับโบรกเกอร์นี้
แพลตฟอร์มเทรดของ XTB ได้แก่ xStation 5 และ MT4 ค่าสเปรดที่นี่เริ่มตั้งแต่ 0 pips สำหรับบัญชี Pro และ 0.9 pips สำหรับบัญชี Standard
AXI
AXI คือโบรกเกอร์ Forex ที่มีปริมาณการเทรดเฉลี่ยต่อวันที่ $5.69 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีนักเทรดกว่า 60,000 คนจากกว่า 100 ประเทศที่เทรดกับโบรกเกอร์นี้
จำนวนเงินฝากขั้นต่ำสำหรับการเปิดบัญชีกับ AXI คือ $0 แต่จำนวนเงินฝากแนะนำคือ $200 คุณสามารถเทรดคู่ฟอเร็กซ์ได้กว่า 70 คู่กับโบรกเกอร์นี้ แพลตฟอร์มเทรดของ AXI ได้แก่ MT4 และ Webtrader ค่าสเปรดดี เริ่มต้นเพียง 0 pips
FXOpen
FXOpen คือโบรกเกอร์ Forex ที่มีปริมาณการเทรดเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ $5.13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จำนวนเงินฝากขั้นต่ำที่กำหนดโดย FXOpen คือ $1 คุณสามารถเทรดสินทรัพย์กว่า 200 รายการกับโบรกเกอร์ ซึ่งรวมถึงคู่ฟอเร็กซ์กว่า 50 คู่
แพลตฟอร์มเทรดของ FXOpen ได้แก่ MT4, MT5 และ Ticktrader โดยบัญชีเทรดที่ให้บริการคือ บัญชี ECN และ STP
Tickmill
Tickmill เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มีปริมาณการเทรดเฉลี่ยต่อวันที่ $4.9 พันล้านดอลลาร์ศหรัฐฯ จำนวนเงินฝากขั้นต่ำสำหรับการเปิดบัญชีกับ Tickmill คือ $100 สำหรับบัญชีทุกประเภท คุณสามารถเทรดคู่ฟอเร็กซ์ได้กว่า 70 คู่ รวมถึง CFDs สินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น และดัชนี
แพลตฟอร์มเทรดของ Tickmill ได้แก่ MT4 และ MT5 ค่าสเปรดเริ่มตั้งแต่ 0 pips สำหรับบัญชี Pro และ VIP และ 1.6 pips สำหรับบัญชี Classic
IG Markets
IG Markets คือโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มีปริมาณการเทรดเฉลี่ยต่อวันกว่า $8.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จำนวนเงินฝากขั้นต่ำที่จำเป็นสำหรับการเปิดบัญชีคือ $250 โบรกเกอร์ฯี้ให้คุณเทรดคู่ฟอเร็กซ์ได้กว่า 80 คู่ รวมถึงสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น ดัชนี หุ้น และคริปโต
แพลตฟอร์มเทรดของที่นี่ ได้แก่ MT4, L2 Dealer และ ProRealTime นอกจากนี้ ลูกค้าของ IG ยังได้ค่าสเปรดต่ำ เริ่มต้นเพียง 0.6 pips
FXCM
FXCM คือโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มีปริมาณการเทรดเฉลี่ยต่อวันที่ $7.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ FXCM คุณจำเป็นต้องฝากเงินเพียง $50 เพื่อเปิดบัญชีและเทรดคู่ Forex กว่า 50 คู่
แพลตฟอร์มเทรดของ FXCM ประกอบด้วย MT4, Trading Station และ NinjaTrader คุณยังมีค่าสเปรดต่ำเริ่มตั้งแต่ 0.3 pips กับโบรกเกอร์นี้
โบรกเกอร์ Forex ขนาดใหญ่ที่สุดของแต่ละประเทศ
การกำกับดูแลธุรกิจฟอเร็กซ์มีความสำคัญด้วยเหตุผลหลายประการด้วยกัน ข้อแรกคือ การกำกับดูแลช่วยให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์ปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดเกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจและการดำเนินงาน วิธีนี้ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักเทรดว่า โบรกเกอร์จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการปฏิบัติงานที่สุ่มเสี่ยง
เหตุผลข้อที่สองก็คือ มีเฉพาะโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลในพื้นที่เท่านั้นที่สามารถให้บริการในประเทศหรือพื้นที่ใด ๆ ได้ เช่น การจะให้บริการในสหรัฐฯ โบรกเกอร์ Forex จะต้องจดทะเบียนกับสมาคมฟิวเจอร์สแห่งชาติ (NFA) ของสหรัฐฯ และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด โบรกเกอร์ต่างประเทศเจ้าใหญ่ ๆ บางโบรกเกอร์ไม่ให้บริการในสหรับฯ เพราะพวกเขาไม่ต้องการจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เข้มงวด
ข้อที่สาม การกำกับดูแลให้ความคุ้มครองระดับหนึ่งแก่นักเทรด เช่น ในกรณีที่โบรกเกอร์ล้มละลาย โบรกเกอร์ที่มีหน่วยงานกำกับดูแลมีเงื่อนไขให้ต้องฝากเงินลูกค้าแยกในบัญชีต่างหาก ยอดเงินของลูกค้าจึงไม่ถูกนำไปจ่ายชำระให้กับผู้ให้สินเชื่อกับโบรกเกอร์ หมายความว่า เงินของคุณจะได้รับการคุ้มครองแม้แต่ในกรณีที่โบรกเกอร์ของคุณไปไม่รอด
โบรกเกอร์ Forex ขนาดใหญ่ที่สุดและมีการกำกับดูแลในสหรัฐฯ
-
OANDA (US) – มีปริมาณการเทรดต่อวัน $12.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
-
IG Markets – มีปริมาณการเทรดต่อวัน $8.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
-
Forex.com – มีปริมาณการเทรดต่อวัน $18.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
-
TD Ameritrade – มีปริมาณการเทรดต่อวัน $3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
-
Interactive Brokers (US) – มีปริมาณการเทรดต่อวัน $4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
โบรกเกอร์ Forex ขนาดใหญ่ที่สุดในอียู
-
IC Markets – มีปริมาณการเทรดต่อวัน $22.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
-
Pepperstone – มีปริมาณการเทรดต่อวัน $8.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
-
IG - มีปริมาณการเทรดต่อวัน $8.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
-
FXCM - มีปริมาณการเทรดต่อวัน $7.11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
-
XTB - มีปริมาณการเทรดต่อวัน $6.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
-
AxiTrader - มีปริมาณการเทรดต่อวัน $7.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
โบรกเกอร์ Forex ขนาดใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร
-
Saxo Bank – มีปริมาณการเทรดต่อวัน $10.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
-
Fusion Markets – มีปริมาณการเทรดต่อวัน $4.96 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
-
CMC Markets – มีปริมาณการเทรดต่อวัน $4.11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
โบรกเกอร์ Forex ขนาดใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย
-
IC Markets – มีปริมาณการเทรดต่อวัน $22.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
-
Saxo Bank - มีปริมาณการเทรดต่อวัน $10.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
-
AxiTrader - มีปริมาณการเทรดต่อวัน $7.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
-
IG - มีปริมาณการเทรดต่อวัน $5.69 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
-
CMC Markets - มีปริมาณการเทรดต่อวัน $4.11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ข้อดีของการเทรดกับโบรกเกอร์ Forex ขนาดใหญ่มีอะไรบ้าง?
การเทรดกับโบรกเกอร์ Forex ขนาดใหญ่อาจให้ประโยชน์หลายข้อด้วยกันดังนี้
1 สภาพคล่อง
โบรกเกอร์ Forex ชั้นนำมักมีปริมาณการเทรดจำนวนมาก ช่วยให้นักเทรดดำเนินคำสั่งเทรดได้อย่างรวดเร็วและที่ราคาที่แข่งขันได้ดี สภาพคล่องเป็นสิ่งสำคัญในตลาดฟอเร็กซ์ เพราะเป็นสิ่งที่รับประกันว่านักเทรดสามารถเข้าและออกคำสั่งได้อย่างไม่ต้องเผชิญกับราคาที่คลาดเคลื่อนไปมาก
2 เทคโนโลยีและเครื่องมือ
โบรกเกอร์ Forex ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกโดยทั่วไปแล้วจะลงทุนในแพลตฟอร์มเทรดขั้นสูงและเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อมอบประสบการณ์การเทรดที่เหนือชั้นกว่าแก่นักเทรด โบรกเกอร์เหล่านี้เข้าใจความสำคัญของเทคโนโลยีในการเทรดสมัยใหม่ และมุ่งมั่นที่จะมอบโซลูชั่นการเทรดที่ทันสมัยมากที่สุดให้แก่ลูกค้า แพลตฟอร์มการเทรดที่ล้ำสมัยมาพร้อมกับสารพัดฟีเจอร์ เช่น ข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ กราฟแบบปรับแต่งได้ อินดิเคเตอร์เชิงเทคนิค และเครื่องมือการจัดการคำสั่งเทรดต่าง ๆ นักเทรดสามารถพัฒนากระบวนการตัดสินใจของตนเองได้โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูงและเครื่องมือเหล่านี้ และพัฒนาผลลัพธ์การเทรดของตนเองได้ในที่สุด
3 การปฏิบัติตามระเบียบและความปลอดภัย
โดยทั่วไป โบรกเกอร์ Forex 10 อันดับแรกในโลกจะถูกกำกับดูแลอย่างเคร่งครัดโดยหน่วยงานทางการเงินที่มีชื่อเสียง การปฏิบัติตามกฎระเบียบเหล่านี้ช่วยรับประกันความปลอดภัยของยอดเงินของนักเทรด และช่วยรักษาความเป็นเอกภาพในตลาด หน่วยงานกำกับดูแลที่จัดตั้งขึ้น เช่น FCA, CySEC และ ASIC ล้วนสอดส่องดูแลกิจกรรมของโบรกเกอร์เหล่านี้เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ให้กับนักลงทุน
4 แหล่งข้อมูลเพื่อการศึกษา
โบรกเกอร์ Forex ขนาดใหญ่มักให้คลังข้อมูลเพื่อการศึกษาวิจัยและให้ความรู้แก่ลูกค้า แหล่งข้อมูลเหล่านี้ ได้แก่ บทวิเคราะห์ตลาด ปฏิทินเศรษฐกิจ บทความให้ความรู้ สัมมนาออนไลน์ และสื่อการสอนผ่านวิดีโอ เนื้อหาเพื่อการศึกษาของโบรกเกอร์เหล่านี้สามารถช่วยให้นักเทรดติดตามแนวโน้มในตลาด กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และโอกาสการเทรดได้อย่างทันเหตุการณ์
5 บริการและความช่วยเหลือลูกค้า
อีกหนึ่งข้อดีของการเทรดกับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์รายใหญ่ คือ บริการลูกค้าที่ครอบคลุมและให้ความช่วยเหลือดี โบรกเกอร์เหล่านี้มักมีทีมงานช่วยเหลือลูกค้าที่ทุ่มเทให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน เพื่อช่วยเหลือนักเทรดเกี่ยวกับปัญหาหรือเหตุขัดข้องใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นความช่วยเหลือทางเทคนิค การสอบถามเกี่ยวกับบัญชี หรือความช่วยเหลือเรื่องการเทรดทั่วไป นักเทรดสามารถพึ่งพาบริการที่รวดเร็วและน่าเชื่อถือจากโบรกเกอร์เหล่านี้ได้
วิธีเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดให้ตรงตามความต้องการของคุณ
การเลือกโบรกเกอร์ Forex ขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดเพื่อความต้องการของคุณต้องอาศัยการประเมินหลักเกณฑ์ต่าง ๆ อย่างระมัดระวัง เช่น
1 การกำกับดูแลและการปฏิบัติตามกฎหมาย
ตรวจสอบดูให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์มีการกำกับดูแลโดยหน่วยงานทางการเงินที่มีชื่อเสียงในเขตพื้นที่ทางกฎหมายที่ให้บริการ การกำกับดูแลช่วยรับประกันว่าโบรกเกอร์ปฏิบัติตามมาตรฐานทางอุตสาหกรรม และมีการเก็บรักษาเงินทุนของลูกค้าไว้ในบัญชีแยกต่างหาก และทำงานอย่างโปร่งใส
2 ความปลอดภัย
มองหาโบรกเกอร์ที่ใช้ประโยชน์จากมาตรการความปลอดภัยที่เข้มแข็ง เช่น เทคโนโลยีการเข้ารหัสลับเพื่อคุ้มครองข้อมูลของคุณ นอกจากนี้ ตรวจดูด้วยว่าโบรกเกอร์มีบริการการยืนยันตนด้วยสองปัจจัย (2FA) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งให้กับบัญชีของคุณหรือไม่ พิจารณาชื่อเสียงของโบรกเกอร์และประวัติในวงการ ตลอดจนเหตุการณ์ความปลอดภัยหรือการรั่วไหลข้อมูลที่อาจเคยเกิดขึ้นในอดีต
3 ตราสารที่สามารถเทรดได้
แม้ว่าจะเน้นตลาดฟอเร็กซ์เป็นหลัก คุณอาจสนใจที่จะเทรดสินทรัพย์ชนิดอื่น ๆ เช่น หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ หรือคริปโต ดูให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์ให้บริการตราสารในการเทรดที่มีความหลากหลาย และสอดคล้องกับความชอบและเป้าหมายของคุณ วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถกระจายความเสี่ยงในพอร์ตและใช้ประโยชน์จากโอกาสการเทรดในตลาดได้มากขึ้น
4 ค่าสเปรดและค่าธรรมเนียม
ค่าสเปรดคือส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายของคู่สกุลเงิน และแสดงถึงค่าตอบแทนของโบรกเกอร์ ค่าสเปรดที่ต่ำลงเป็นสิ่งที่คนนิยมมากกว่า เพราะว่าช่วยลดต้นทุนในการเทรด แต่ต้องระวังค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมใด ๆ เช่น ค่าคอมมิชชั่น ค่าธรรมเนียมการฝาก/ถอนเงิน หรือค่าธรรมเนียมการไม่มีความเคลื่อนไหวในบัญชี เป็นต้น
5 การศึกษาและการวิจัย
มองหาโบรกเกอร์ที่ให้บริการเนื้อหาเพื่อการศึกษาที่ครอบคลุม ได้แก่ สื่อการสอน สัมมนาออนไลน์ คู่มือการเทรด และบทวิเคราะห์ตลาด เนื้อหาเหล่านี้สามารถช่วยเหลือคุณในการเรียนรู้เกี่ยวกับหลักการเทรดฟอเร็กซ์ พัฒนากลยุทธ์ และติดตามแนวโน้มล่าสุดในตลาด
ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
การเทรดกับโบรกเกอร์ Forex ขนาดใหญ่ที่สุดระดับโลกช่วยให้นักเทรดเข้าถึงโอกาสในตลาดและแหล่งข้อมูลที่หาคู่แข่งเทียบเคียงได้ยาก อย่างไรก็ตาม นักเทรดควรไตร่ตรองข้อมูลเหล่านี้เสมอ สิ่งสำคัญคือการประเมินปัจจัยต่าง ๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในการเทรด การดำเนินคำสั่ง และความหลากหลายของสินทรัพย์ที่ให้บริการ แม้แต่โบรกเกอร์รายใหญ่ที่สุดก็อาจไม่ได้ให้สภาพแวดล้อมการเทรดที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละคนเสมอไป ดังนั้น การพิจารณาเป้าหมายการเทรดและแนวทางส่วนตัวอย่างรอบคอบยังคงเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์กลุ่มผู้ให้บริการรายใหญ่ในวงการเหล่านี้
ผู้เขียนและผู้เชี่ยวชาญที่ Traders Union
คำถามที่พบบ่อย
ใครคือราชาแห่งการเทรดฟอเร็กซ์?
ตำแหน่ง “ราชาแห่งการเทรดฟอเร็กซ์” นั้นขึ้นอยู่กับความเห็นของแต่ละคนและไม่มีตำแหน่งแบบเป็นทางการ นักเทรดฟอเร็กซ์ที่ประสบความสำเร็จที่มักถูกเรียกว่าเป็นราชาล้วนมีทักษะการเทรดที่ยอดเยี่ยมและมีความสำเร็จที่ไม่เหมือนใคร หนึ่งในนักเทรดในตำนานดังกล่าวคือ จอร์จ โซรอส ซึ่งเป็นที่รู้จักในการเทรดฟอเร็กซ์ขนานใหญ่ของเขา
ข้อดีของการเทรดกับโบรกเกอร์ที่มีการกำกับดูแลมีอะไรบ้าง?
ตัวอย่างข้อดีของการเทรดกับโบรกเกอร์ที่มีหน่วยงานกำกับดูแลคือ เงินทุนของคุณได้รับการคุ้มครอง สนามการเทรดมีระดับ และการปฏิบัติตามาตรฐานที่กำหนด
มีโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ปลอมหรือไม่?
มี โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่หลอกลวงมีอยู่ในวงการการเงิน โบรกเกอร์มิจฉาชีพเหล่านี้ทำงานเพื่อหวังจะหลอกลวงเงินจากนักเทรด โดยการให้สัญญาแบบขายฝัน ทำตุกติกกับแพลตฟอร์มเทรดและเงินฝาก สิ่งสำคัญคือนักเทรดควรมีความระมัดระวัง และทำการศึกษาเป็นอย่างดีในการเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ เพื่อให้แน่ใจว่าตนเองเทรดกับโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงและมีการกำกับดูแล
ประเทศใดบ้างที่มีกฎระเบียบ Forex ที่เข้มงวดมากที่สุด?
สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีกฎระเบียบด้าน Forex ที่เข้มงวดที่สุดในโลก การจะให้บริการในสหรัฐฯ ได้นั้น โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์จะต้องจดทะเบียนกับสมาคมฟิวเจอร์สแห่งชาติ (NFA) และปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด
วิธีการจัดอันดับเรตติ้งโบรกเกอร์ Forex ของเรา
Traders Union ใช้วิธีการที่พิถีพิถันในการประเมินโบรกเกอร์โดยใช้หลักเกณฑ์เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพกว่า 100 หลักเกณฑ์ โดยหลายคุณสมบัติจะมีคะแนนเป็นของตนเอง ซึ่งนำมาคิดรวมเป็นคะแนนรวม
ส่วนสำคัญในการประเมิน ได้แก่
การกำกับดูแลและความปลอดภัย ประเมินโบรกเกอร์ตามระดับ/ชื่อเสียงของใบอนุญาตและการกำกับดูแลที่โบรกเกอร์ขึ้นอยู่ด้วย
รีวิวผู้ใช้บริการ รีวิวและเสียงตอบรับจากผู้ใช้บริการจะถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อประเมินเป็นระดับความพึงพอใจของลูกค้า โดยมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและยืนยันความถูกต้องของรีวิว
ตราสารในการเทรด ประเมินโบรกเกอร์จากความหลากหลายของสินทรัพย์ที่ให้บริการ ตลอดจนความครอบคลุมและความลึกของตลาดที่ให้บริการ
ค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่น ค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นการเทรดทั้งหมดจะถูกนำมาวิเคราะห์อย่างละเอียดเพื่อประเมินต้นทุนโดยทั่วไปสำหรับลูกค้า
แพลตฟอร์มเทรด มีการประเมินโบรกเกอร์ในส่วนของความหลากหลาย คุณภาพ และคุณสมบัติของแพลตฟอร์มที่ให้บริการแก่ลูกค้า
ปัจจัยอื่น ๆ เช่น มีการประเมินความนิยมในแบรนด์ บริการลูกค้า และแหล่งข้อมูลความรู้ด้วยเช่นกัน
อภิธานศัพท์สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
-
1
ดัชนี
ดัชนีในการซื้อขายคือการวัดผลการดำเนินงานของกลุ่มหุ้น ซึ่งอาจรวมถึงสินทรัพย์และหลักทรัพย์ในกลุ่มนั้นด้วย
-
2
CFD
CFD เป็นสัญญาระหว่างนักลงทุน/ผู้ค้าและผู้ขายที่แสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อขายจะต้องจ่ายส่วนต่างราคาระหว่างมูลค่าปัจจุบันของสินทรัพย์และมูลค่า ณ เวลาที่ทำสัญญากับผู้ขาย
-
3
นักลงทุน
นักลงทุนคือบุคคลที่นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์โดยคาดหวังว่ามูลค่าของสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้นในอนาคต สินทรัพย์อาจเป็นอะไรก็ได้ รวมถึงพันธบัตร หุ้นกู้ กองทุนรวม หุ้น ทองคำ เงิน กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) และอสังหาริมทรัพย์
-
4
การซื้อขาย
การซื้อขายเกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น สกุลเงิน หรือสินค้าโภคภัณฑ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคาในตลาด เทรดเดอร์ใช้กลยุทธ์ เทคนิคการวิเคราะห์ และแนวทางปฏิบัติในการบริหารความเสี่ยงที่หลากหลาย เพื่อตัดสินใจอย่างมีข้อมูลและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในตลาดการเงิน
-
5
ความผันผวน
ความผันผวนหมายถึงระดับของการเปลี่ยนแปลงหรือความผันผวนของราคาหรือมูลค่าของสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น พันธบัตร หรือสกุลเงินดิจิทัล ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ความผันผวนที่สูงขึ้นบ่งชี้ว่าราคาของสินทรัพย์กำลังเผชิญกับการแกว่งของราคาที่มีนัยสำคัญและรวดเร็วมากขึ้น ในขณะที่ความผันผวนที่ลดลงบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่ค่อนข้างคงที่และค่อยเป็นค่อยไป
ทีมงานที่จัดทำบทความนี้
Johnathan M. เป็นนักเขียนและนักลงทุนที่อยู่ในสหรัฐฯ และเป็นนักเขียนให้กับเว็บไซต์ Traders Union เขามีความเชี่ยวชาญหลังสองด้าน คือ การเงินและการลงทุน (โดยเฉพาะการเทรดฟอเร็กซ์ และการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์) และศาสนา/จิตวิญญาณ/การนั่งสมาธิ
ประสบการณ์ของเขา ได้แก่ การเขียนบทความให้กับ Investopedia.com ในฐานะหัวหน้านักเขียนให้กับรายการ Steve Pomeranz Show โปรแกรมทางวิทยุเกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคลในช่อง NPR นอกจากนี้ Jonathan ยังเป็นนักเทรดสกุลเงิน (ฟอเร็กซ์) ผู้มีประสบการณ์ในการลงทุนมากกว่า 20 ปีด้วย
เคท สโตยเชฟ เป็นบรรณาธิการคนไทยที่ Traders Union เธอเรียนจบปริญญาตรีและปริญญาโทด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ความหลงรักในภาษาพาเธอมาพบกับอาชีพเสริมในฐานะนักแปลภาษาไทยและอังกฤษ จนผันตัวมาเป็นงานหลักที่เธอชื่นชอบ “ฉันสนใจในเรื่องการเงินและการลงทุนมาโดยตลอด ส่วนใหญ่จึงมักแปลงานหรือเขียนคอนเทนต์เกี่ยวกับเรื่องการเงิน การเทรดสัญญา CFDs และคริปโต” นอกจากความชอบในภาษาต่างประเทศแล้ว เธอยังสนใจในเรื่องประเด็นสังคมและการเมืองอีกด้วย เธอชอบใช้เวลาว่างกับครอบครัว ปรุงอาหารอร่อย ๆ และพยายามฝึกทักษะภาษาเยอรมัน
Mirjan Hipolito เป็นนักเขียนและบรรณาธิการข่าวที่ Traders Union เธอเป็นนักเเขียนที่เชี่ยวชาญเรื่องคริปโต มีประสบการณ์มากกว่าห้าปีในตลาดการเงิน เธอมีความชำนาญในการเขียนข่าวสารตลาดรายวัน การคาดการณ์ราคา และเรื่องการระดมทุนเพื่อเสนอขายเหรียญดิจิทัลใหม่ (ICO)