หมายเหตุบรรณาธิการ: แม้ว่าเราจะปฏิบัติตามมาตรฐานบรรณาธิการที่เข้มงวด แต่โพสต์นี้อาจมีการอ้างอิงถึงผลิตภัณฑ์จากพันธมิตรของเรา นี่คือคำอธิบายเกี่ยวกับวิธีที่เราทำเงิน ข้อมูลและข้อมูลใด ๆ บนหน้าเว็บนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุนตามข้อจำกัดความรับผิดของเรา
ทองคำมักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ เนื่องจากราคามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจไม่มั่นคงและราคาพุ่งสูงขึ้น ทองคำยังคงมูลค่าได้ดีกว่าสินทรัพย์อื่นๆ มากมาย แต่ราคาที่ผันผวนยาวนานและขาดรายได้ประจำอาจเป็นข้อเสียได้ สินทรัพย์เช่นอสังหาริมทรัพย์และสกุลเงินดิจิทัลยังเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้ออีกด้วย
ภาวะเงินเฟ้อทั่วโลกเป็นเรื่องธรรมดา แทบทุกคนยอมรับแล้วว่าภาวะเงินเฟ้อจะคงอยู่ตลอดไป การเสื่อมค่าของเงินอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออำนาจซื้อ ทำให้ผู้คนต้องใช้จ่ายอย่างแข็งขันเพื่อไม่ให้มูลค่าลดลง และส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้นอีก เพื่อไม่ให้ตกอยู่ภายใต้ลัทธิบริโภคนิยม นักลงทุนจำนวนมากจึงมองหาวิธีปกป้องเงินออมของตน หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในการป้องกันภาวะเงินเฟ้อคือทองคำ ซึ่งในอดีตเคยถือเป็นวิธีการป้องกันเงินเฟ้อที่เชื่อถือได้
หลักการ “ทอง” ของการป้องกันภาวะเงินเฟ้อ

ทองคำถูกใช้เป็นวิธีการออมและแลกเปลี่ยนมาเป็นเวลานานหลายศตวรรษ ซึ่งแตกต่างจากสกุลเงินกระดาษที่สามารถพิมพ์ออกมาได้เป็นจำนวนมาก ทองคำยังคงมูลค่าไว้ได้เนื่องจากหายากและมีเสถียรภาพ ทำให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจในช่วงที่เศรษฐกิจไม่มั่นคง นอกจากนี้ ทองคำยังมีคุณสมบัติทางกายภาพที่เป็นเอกลักษณ์ นั่นคือ ทนทานต่อการกัดกร่อน มีความหนาแน่นสูง และนำความร้อนและไฟฟ้าได้ดี
อย่างไรก็ตาม มูลค่าหลักของทองคำอยู่ที่ปริมาณสำรองที่มีจำกัด ทองคำไม่อยู่ภายใต้ภาวะเงินเฟ้อ เนื่องจากปริมาณบนโลกมีจำกัดอย่างเข้มงวด และการสกัดสำรองใหม่ต้องใช้ต้นทุนและความพยายามอย่างมาก
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมในช่วงที่เศรษฐกิจไม่มั่นคง ความต้องการทองคำจึงเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลให้ราคาทองคำสูงขึ้น เนื่องจากอุปทานทองคำบนโลกมีจำกัด จึงช่วยสนับสนุนมูลค่า ของทองคำด้วย ในปี 2024 ราคาทองคำทำลายสถิติประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม เมื่อราคาทองคำ 1 ออนซ์ทรอยพุ่งสูงถึง 2,787 ดอลลาร์ และโลหะชนิดนี้จะไม่หยุดอยู่ที่ระดับนี้
ทองคำในฐานะที่เป็นแหล่งเก็บมูลค่า
ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่า ทองคำยังคงรักษามูลค่าไว้ได้เสมอในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง ตัวอย่างเช่น ในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูงในเยอรมนีในช่วงปี ค.ศ. 1920 หรือในซิมบับเวในช่วงปี ค.ศ. 2000 ทองคำช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการเสื่อมค่าของสกุลเงินประจำชาติ ในสถานการณ์เช่นนี้ มูลค่าของสกุลเงินท้องถิ่นจะลดลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ทองคำยังคงมีอำนาจในการซื้อ ทำให้ผู้คนสามารถปกป้องเงินออมของตนได้
ตามคำกล่าวของ Charles Schwab และ Fidelity ทองคำแสดงให้เห็นถึงผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ตัวอย่างเช่น ในช่วงทศวรรษ 1970 เมื่ออัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ สูง ราคาทองคำพุ่งขึ้นจากประมาณ 35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงต้นทศวรรษเป็นมากกว่า 800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 1980 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่มั่นคงอันเนื่องมาจากการระบาดของ COVID-19 ทองคำก็แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เช่นกัน โดยแตะระดับสูงสุดตลอดกาลในเดือนตุลาคม 2024 ที่ 2,787 ดอลลาร์ต่อออนซ์
การเปรียบเทียบทองคำกับหุ้น พันธบัตร และอสังหาริมทรัพย์ แสดงให้เห็นว่าทองคำมักจะให้ผลตอบแทนดีกว่าสินทรัพย์เหล่านี้ในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง หุ้นและพันธบัตรอาจสูญเสียมูลค่าเนื่องจากค่าเงินที่ลดลงและอำนาจซื้อที่ลดลง อสังหาริมทรัพย์อาจสูญเสียมูลค่าได้เช่นกันเนื่องจากความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจและสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่ทองคำยังคงมูลค่าและอาจมีราคาสูงขึ้น จึงทำหน้าที่เป็นที่หลบภัยที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุน
ข้อมูลทางประวัติศาสตร์และการศึกษาเชิงประจักษ์จึงยืนยันว่าทองคำเป็นสินทรัพย์สำรองที่เชื่อถือได้ในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนที่ต้องการปกป้องเงินออมของตนจากการเสื่อมค่ามักหันมาใช้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและมั่นคง
วิธีรักษาภาวะเงินเฟ้อด้วยทองคำ
การลงทุนในทองคำมีแนวทางที่แตกต่างกันหลายวิธี โดยแต่ละวิธีก็มีคุณลักษณะและประโยชน์ที่แตกต่างกันไป
ทองคำแท่ง การลงทุนแบบดั้งเดิมวิธีหนึ่งคือการซื้อทองคำแท่ง อาจเป็นทองคำแท่ง เหรียญ หรือเครื่องประดับก็ได้ ทองคำแท่งช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่เป็นอิสระจากระบบอิเล็กทรอนิกส์และสถาบันการเงิน
ETFs ทองคำ กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนที่เชื่อมโยงกับทองคำ (ETFs) คือกองทุนที่ติดตามราคาทองคำและซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนเช่นเดียวกับหุ้นทั่วไป การซื้อ ETFs ทองคำทำให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดทองคำได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของทองคำจริง นอกจากนี้ยังไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดเก็บและความปลอดภัยอีกด้วย
หุ้นทองคำ การ ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ทำธุรกิจ mining ทองและกลั่นทองยังให้โอกาสในการรับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำอีกด้วย หุ้นของบริษัท mining ทองสามารถให้ผลตอบแทนที่สำคัญในช่วงที่ราคาทองคำสูงขึ้น เนื่องจากผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทจะเพิ่ม ขึ้น อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากความเสี่ยงด้านตลาดแล้ว บริษัทเหล่านี้ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านการดำเนินงานและการจัดการอีกด้วย
หากต้องการซื้อขายทองคำอย่างแข็งขัน คุณไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของทองคำก็ได้ คุณสามารถใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น ETFs หุ้น CFDs สัญญาซื้อขายล่วงหน้า อนุพันธ์ บริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์สามารถเข้าใช้การซื้อขายได้ที่นี่ เราได้เลือกนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวไว้หลายราย เกณฑ์สำคัญในการเลือกนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์คือ ค่าคอมมิชชันต่ำ การเข้าถึงตลาดที่หลากหลาย เป็นต้น
การสาธิต | เงินฝากขั้นต่ำ, $ | เลเวอเรจสูงสุด | ฟิวเจอร์ส | ตัวเลือก | หุ้น | ทอง | สเปรด XAU/USD, pips | ค่าคอมมิชชั่น XAU/USD, $ | เปิดบัญชี | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
มี | ไม่มี | 1:500 | ไม่มี | ไม่มี | มี | มี | 22 | 3,5 | เปิดบัญชี เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง
|
|
มี | ไม่มี | 1:200 | ไม่มี | ไม่มี | มี | มี | 30 | 3 | เปิดบัญชี เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง |
|
มี | 1 | 1:200 | มี | มี | มี | มี | 30 | ไม่มี | อ่านรีวิว | |
ไม่มี | 1000 | 1:1 | มี | มี | มี | มี | ไม่มี | ไม่มี | อ่านรีวิว | |
มี | 5 | 1:1000 | ไม่มี | ไม่มี | มี | มี | 35 | 3,5 | เปิดบัญชี เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง |
การกระจายการลงทุนด้วยทองคำ
การลงทุนในทองคำถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน ทองคำมักมีผลงานแตกต่างจากหุ้นและพันธบัตร ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตการลงทุนได้ ในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความผันผวนของตลาด ทองคำมักจะมีแนวโน้มราคาสูงขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยการสูญเสียในสินทรัพย์อื่นๆ ได้ ดังนั้น ทองคำจึงสามารถทำหน้าที่เป็น “หลักประกัน” ให้กับพอร์ตการลงทุน โดยรักษาเสถียรภาพเอาไว้ได้
ความเสี่ยงและผลประโยชน์ของการลงทุนในทองคำ
ความเสี่ยง:
ความผันผวนของราคา ราคาทองคำอาจมีการผันผวนอย่างมาก อย่างไรก็ตาม มักเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน ซึ่งอาจเกิดการผันผวนอย่างมากเนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย ความไม่มั่นคงทางการเมือง และเหตุการณ์เศรษฐกิจโลก
ไม่มีรายได้ ต่างจากหุ้นและพันธบัตร ทองคำไม่ได้สร้างรายได้ประจำ ไม่จ่ายเงินปันผลหรือดอกเบี้ย ทำให้ไม่น่าดึงดูดใจนักลงทุนที่เน้นหารายได้
ประโยชน์:
การป้องกันเงินเฟ้อ ข้อ ได้เปรียบหลักประการหนึ่งของทองคำคือความสามารถในการรักษาอำนาจซื้อเมื่อเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ จากประวัติศาสตร์พบว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีภาวะเงินเฟ้อสูง ซึ่งช่วยปกป้องเงินทุนของนักลงทุน
เสถียรภาพในช่วงวิกฤต ทองคำมักถูกมองว่าเป็น “ที่หลบภัย” ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่มั่นคง เมื่อตลาดการเงินเกิดภาวะตึงเครียด นักลงทุนมักหันมาหาทองคำ ซึ่งทำให้ราคาทองคำสูงขึ้น ตัวอย่างเช่น ในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินระดับโลกหรือความขัดแย้งทางการเมือง ความต้องการทองคำจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งยืนยันสถานะของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่เชื่อถือได้เสมอ
ทางเลือกแทนทองคำสำหรับภาวะเงินเฟ้อ
แม้ว่าทองคำจะเคยถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อมาโดยตลอด แต่ก็ยังมีสินทรัพย์อื่นๆ ที่สามารถทำหน้าที่คล้ายกันได้ เช่น อสังหาริมทรัพย์ สินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงินดิจิทัล สินทรัพย์แต่ละอย่างมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันซึ่งจำเป็นต้องพิจารณาเมื่อเลือกเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
อสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราเงินเฟ้อ มีมูลค่าทางกายภาพและสามารถสร้างรายได้ในรูปแบบของค่าเช่าได้ ในอดีต มูลค่าอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากราคาบ้านและค่าเช่าเพิ่มขึ้น
สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน ก๊าซ โลหะ และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ยังสามารถทำหน้าที่เป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อได้อีกด้วย ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มักจะเพิ่มขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อ เนื่องจากต้นทุนในการสกัดและการผลิตเพิ่มขึ้น การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์สามารถทำได้ผ่านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า อนุพันธ์ หรือ ETFs สินค้าโภคภัณฑ์
สกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin และ Ethereum เป็นสินทรัพย์ประเภทใหม่ที่ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ สกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนสูงและสามารถสร้างผลตอบแทนที่สำคัญในช่วงเวลาสั้นๆ นักลงทุนบางคนมองว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นทองคำดิจิทัลเนื่องจากมีปริมาณจำกัดและมีลักษณะกระจายอำนาจ
หุ้น การลงทุนในหุ้นเป็นกลยุทธ์ในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้ออาจมีประสิทธิภาพได้ โดยต้องเลือกประเภทหุ้นและกลุ่มอุตสาหกรรมที่เหมาะสม (กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) หุ้นที่เชื่อมโยงกับสินค้าโภคภัณฑ์ หุ้นป้องกันความเสี่ยง)
พิจารณาทองคำเป็นเพียงการลงทุนระยะยาวเท่านั้น
เมื่อพิจารณาใช้ทองคำเป็นกลยุทธ์ในการปกป้องเงินทุนจากภาวะเงินเฟ้อ สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาปัจจัยสำคัญหลายประการ ประการแรก ทองคำมักถูกใช้เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่เศรษฐกิจไม่มั่นคง เนื่องจากมูลค่าของทองคำมักจะเพิ่มขึ้นเมื่อสินทรัพย์อื่นลดลง ซึ่งทำให้ทองคำเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการรักษาอำนาจซื้อในสภาพแวดล้อมที่ราคาพุ่งสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อลงทุนในทองคำ เราต้องตระหนักถึงวงจรระยะยาวของทองคำ ทองคำไม่ได้ป้องกันภาวะเงินเฟ้อในระยะสั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพเสมอไป แต่ถูกใช้โดยนักเก็งกำไรและผู้สร้างตลาดเพื่อควบคุมตลาด ราคาทองคำอาจลดลงอย่างมากจากจุดสูงสุด และคุณจะต้องถือครองสินทรัพย์เป็นเวลานานโดยไม่มีรายได้
อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว ทองคำจะคงมูลค่าไว้ได้อย่างแน่นอน แต่จะไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่คงที่ เช่น เงินปันผลหรือดอกเบี้ย ได้เท่ากับสินทรัพย์อื่น
ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยง ฉันขอแนะนำให้พิจารณาทองคำเป็นการลงทุนระยะยาวเท่านั้น รวมถึงกระจายพอร์ตการลงทุนโดยรวมสินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ เข้าไป ด้วย ตัวอย่างเช่น การเพิ่มทองคำร่วมกับหุ้นและพันธบัตรที่มีเสถียรภาพ จะทำให้พอร์ตการลงทุนมีความสมดุลและต้านทานเงินเฟ้อได้ดีขึ้น
เมื่อตัดสินใจลงทุนในทองคำ สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาไม่เพียงแต่แนวโน้มของตลาดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเป้าหมายทางการเงินส่วนบุคคลและความสามารถในการรับความเสี่ยง ด้วย การปรึกษาหารือกับที่ปรึกษาทางการเงินสามารถช่วยกำหนดการลงทุนในทองคำที่เหมาะสมที่สุดและเลือกตราสารที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นทองคำแท่ง ETFs หุ้น mining ทองคำ เป็นต้น แนวทางที่ครอบคลุมนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับการคุ้มครองเงินทุนสูงสุดเมื่อเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ
บทสรุป
โดยสรุปแล้ว ทองคำได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ โดยรักษามูลค่าไว้ได้ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่มั่นคง การลงทุนในทองคำสามารถเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและรักษาเงินออมไว้ได้ บริษัทลงทุนชั้นนำระบุว่าทองคำจะยังคงมีบทบาทสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อต่อไป คาดว่าความต้องการทองคำจะยังคงสูงต่อไป ซึ่งจะช่วยพยุงราคาทองคำไว้ได้ ในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจปัจจุบันที่เงินเฟ้อยังคงสูง การรวมทองคำไว้ในพอร์ตโฟลิโอการลงทุนถือเป็นแนวทางที่ชาญฉลาดเพื่อป้องกันการด้อยค่าของเงิน
คำถามที่พบบ่อย
การเก็บรักษาทองคำแท่งจะส่งผลต่อการลงทุนของคุณอย่างไร?
การเก็บทองคำแท่งต้องคำนึงถึงต้นทุนและความเสี่ยงเพิ่มเติม เช่น ความจำเป็นในการจัดเก็บที่ปลอดภัย การประกันภัย และการขนส่ง ปัจจัยเหล่านี้อาจเพิ่มต้นทุนการลงทุนโดยรวม และควรนำมาพิจารณาเมื่อตัดสินใจว่าจะซื้อทองคำแท่งหรือไม่
ETFs ทองคำมีข้อได้เปรียบเหนือทองคำแท่งอย่างไร?
ETFs ทองคำช่วยให้การลงทุนในทองคำเป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้ง่ายกว่าโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายทางกายภาพในการจัดเก็บและรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถซื้อและขายทองคำได้อย่างง่ายดายบนกระดานแลกเปลี่ยน ซึ่งให้สภาพคล่องมากกว่าทองคำแท่ง
มุมมองต่อทองคำในฐานะที่ปลอดภัยมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา?
มุมมองต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของเครื่องมือทางเลือก เช่น สกุลเงินดิจิทัลและ TIPS อย่างไรก็ตาม ทองคำยังคงเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่เป็นที่นิยม เนื่องจากมีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีความยืดหยุ่นต่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยส่งผลต่อราคาทองคำอย่างไร?
เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ต้นทุนในการจัดเก็บทองคำก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้ทองคำน่าสนใจน้อยลงสำหรับนักลงทุน ในทางกลับกัน เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ทองคำจะน่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ทางเลือกให้ผลตอบแทนน้อยลง
บทความที่เกี่ยวข้อง
ทีมงานที่จัดทำบทความนี้
Maxim Nechiporenko เป็นผู้สนับสนุน Traders Union ตั้งแต่ปี 2023 เขาเริ่มอาชีพในสายงานสื่อในปี 2006 เขามีความเชี่ยวชาญด้านการเงินและการลงทุน และสาขาที่เขาสนใจครอบคลุมทุกด้านของเศรษฐศาสตร์ภูมิรัฐศาสตร์ Maxim ให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับการซื้อขาย สกุลเงินดิจิทัล และตราสารทางการเงินอื่นๆ เขาอัปเดตความรู้เป็นประจำเพื่อให้ทันต่อนวัตกรรมและแนวโน้มล่าสุดในตลาด
การกระจายความเสี่ยงเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการกระจายการลงทุนไปยังประเภทสินทรัพย์ อุตสาหกรรม และภูมิภาคต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงโดยรวม
การซื้อขายเกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น สกุลเงิน หรือสินค้าโภคภัณฑ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำกำไรจากความผันผวนของราคาในตลาด เทรดเดอร์ใช้กลยุทธ์ เทคนิคการวิเคราะห์ และแนวทางปฏิบัติในการบริหารความเสี่ยงที่หลากหลาย เพื่อตัดสินใจอย่างมีข้อมูลและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในตลาดการเงิน
การเทรดแบบ Scalping เป็นกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์ตั้งเป้าที่จะทำกำไรเพียงเล็กน้อยอย่างรวดเร็วโดยดำเนินการเทรดระยะสั้นจำนวนมากภายในไม่กี่วินาทีหรือนาที โดยใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคาเล็กน้อย
ความผันผวนหมายถึงระดับของการเปลี่ยนแปลงหรือความผันผวนของราคาหรือมูลค่าของสินทรัพย์ทางการเงิน เช่น หุ้น พันธบัตร หรือสกุลเงินดิจิทัล ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ความผันผวนที่สูงขึ้นบ่งชี้ว่าราคาของสินทรัพย์กำลังเผชิญกับการแกว่งของราคาที่มีนัยสำคัญและรวดเร็วมากขึ้น ในขณะที่ความผันผวนที่ลดลงบ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่ค่อนข้างคงที่และค่อยเป็นค่อยไป
นายหน้าคือนิติบุคคลหรือบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการซื้อขายในตลาดการเงิน นักลงทุนเอกชนไม่สามารถซื้อขายได้หากไม่มีนายหน้า เนื่องจากมีเพียงนายหน้าเท่านั้นที่สามารถดำเนินการซื้อขายในการแลกเปลี่ยนได้